Header Ads

ถก GBC ไทย-กัมพูชา เห็นชอบ 13 ข้อตกลงหยุดยิง “รักษาสันติภาพ”


เพจเฟสบุ๊ค ศูนย์เฉพาะกิจฯ ชายแดนไทย-กัมพูชา - Team Thailand เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee: GBC) ไทย - กัมพูชา สมัยวิสามัญ  ที่ประเทศมาเลเซีย ระบุไทยและกัมพูชาได้เห็นชอบข้อตกลงหยุดยิงร่วมกัน 13 ข้อ ปะกอบด้วย

1. ยุติการใช้อาวุธทุกประเภท การโจมตีต่อพลเรือน เป้าหมายพลเรือน และเป้าหมายทางทหาร ในทุกพื้นที่และทุกกรณี

2. รักษาสถานะการวางกำลังในที่ตั้งปัจจุบัน สถานะตั้งแต่ 28 ก.ค.68 โดยไม่มีการเคลื่อนย้ายกำลัง และไม่มีการลาดตระเวนไปยังที่ตั้งของอีกฝ่าย 

3. ไม่เพิ่มเติมกำลังตลอดแนวชายแดนไทย - กัมพูชา  

4. ไม่กระทำการอันเป็นการยั่วยุที่ส่งผลให้เกิดความตึงเครียด การมีกิจกรรมทางทหารเข้าไปยังดินแดนเขตน่านฟ้า หรือที่ตั้งของอีกฝ่าย ตามสถานะการหยุดยิง ตั้งแต่ 28 ก.ค.68 และไม่สร้างโครงสร้างพื้นฐานทางทหารล้ำออกไปนอกขอบเขตของฝ่ายตน

5. ไม่ใช้กำลังต่อพลเรือน หรือเป้าหมายทางพลเรือนในทุกกรณี

6. การปฏิบัติตามอนุสัญญาเจนีวา: การปฏิบัติต่อผู้ที่ถูกจับกุมตัว การขอส่งตัวผู้บาดเจ็บมารักษาในสถานพยาบาลของอีกฝ่าย โดยจะขึ้นอยู่กับศักยภาพในการรองรับของสถานพยาบาลแล้วแต่กรณี สำหรับทหารที่อยู่ในความควบคุมของอีกฝ่ายหนึ่งจะได้รับการปล่อยตัวและส่งกลับประเทศ หลังจากยุติการใช้กำลังโดยสมบูรณ์ รวมทั้งอำนวยความสะดวกในการส่งคืนร่างผู้เสียชีวิตอย่างสมเกียรติโดยเร็ว และจัดการศพภายใต้สภาพที่ถูกสุขลักษณะและด้วยความเคารพ

7. กรณีมีความขัดแย้งกันด้วยอาวุธทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ ทั้งสองฝ่ายจะหารือกันในระดับปฏิบัติผ่านกลไกทวิภาคีที่มีอยู่ เพื่อป้องกันการขยายตัวของสถานการณ์

8. เห็นชอบให้เพิ่มในเรื่องของการปฏิบัติดังนี้

    8.1 ดำรงการติดต่อสื่อสารอย่างต่อเนื่องระหว่างหน่วยทหารในพื้นที่ 

    8.2 จัดการประชุม RBC ภายใน 2 สัปดาห์นับจากการประชุม GBC ใน 7 ส.ค. 68

  8.3 ดำรงช่องทางการติดต่อสื่อสารโดยตรงระดับรัฐมนตรีและผู้บัญชาการทหารสูงสุดของทั้งสองประเทศ

9. งดเว้นการเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จหรือข่าวปลอม

ส่วนที่ 2 กลไกตรวจสอบการหยุดยิง

10. ทั้งสองฝ่ายต้องดำเนินการตามผลหารือเมื่อ 28 ก.ค. 68 ซึ่งรวมถึงการหยุดยิงและการมีคณะผู้สังเกตการณ์จากประเทศสมาชิกอาเซียน นำโดยมาเลเซีย

11. เห็นชอบให้ RBC ในแต่ละพื้นที่ ดำเนินการตามข้อตกลงหยุดยิง โดยมีโดยมีคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน ซึ่งนำโดยมาเลเซียเป็นผู้ร่วมสังเกตการณ์ โดย RBC จะพบกันเป็นประจำ และส่งรายงานให้ GBC ตามสายการบังคับบัญชาของแต่ละฝ่าย

12. ในระหว่างการจัดตั้งคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียนที่มีมาเลเซีย เป็นผู้นำ จะใช้กลไกคณะผู้สังเกตการณชั่วคราว ซึ่งประกอบด้วยผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารประเทศสมาชิกอาเซียน ประจำประเทศไทย และกัมพูชา ทำหน้าที่แทนเป็นการชั่วคราว 

ส่วนที่ 3 การประชุม GBC  

13. ให้จัดการประชุม GBC ในหนึ่งเดือนหลัง 7 ส.ค.68 (สถานที่จะตกลงกันภายหลัง) หรือมิเช่นนั้นการประชุม GBC วิสามัญ จะถูกจัดขึ้นเพื่อเจรจาการหยุดยิง

        ด้าน Anwar Ibrahim นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เปิดเผยผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัว ระบุ เช้านี้ได้รับความอนุเคราะห์จากท่านรองนายกรัฐมนตรีกลาโหมกัมพูชา ท่านพลชา เซย์ฮา และรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประเทศไทย ท่านพลณัฐพล นรกพานิช พร้อมคณะตัวแทนตามลําดับที่นายกรัฐมนตรี

การประชุมครั้งนี้มีความหมายอย่างมาก เมื่อเราได้บรรลุข้อตกลงสําคัญในการดําเนินงานและรักษาการหยุดยิงที่ชายแดนไทย-กัมพูชาที่เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคม มันสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของส่วนรวมในการรักษาสันติภาพและความมั่นคงของภูมิภาคที่ขาดไม่ได้ในภูมิทัศน์ทางภูมิศาสตร์การเมืองปัจจุบัน

ผมซาบซึ้งในความมั่นใจที่ ประเทศไทย และกัมพูชามอบให้มาเลเซียในการเจรจาสันติภาพและติดตามสถานการณ์ที่ชายแดนต่อไป  ทั้งสองประเทศบรรลุข้อตกลงสําคัญหลายข้อ รวมถึงความมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามการหยุดยิงอย่างเต็มที่โดยไม่มีการโจมตีในรูปแบบใด ๆ ไม่เพิ่มความแข็งแกร่งหรือเปลี่ยนแปลงการนํากําลังทหาร หลีกเลี่ยงการกระทําที่ยั่วยุ รวมถึงการรับประกันการคุ้มครองพลเรือนและโครงสร้างพื้นฐานของสาธารณะ

การพูดคุยของเรากว่า 30 นาที ยังสัมผัสถึงข้อเสนอของการใช้ทีมผู้สังเกตการณ์อาเซียน (AOT) เพื่อช่วยติดตามความพยายาม การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และการจัดการทางการแพทย์ในพื้นที่ชายแดน ผมและทีมชาวมาเลเซียทั้งหมดจะยังคงทํางานเพื่อสนับสนุนกระบวนการสันติสุขนี้บนพื้นฐานของความเชื่อและความเชื่อมั่นว่าสันติสุขที่ยั่งยืนจะสําเร็จได้ผ่านบทสนทนา มิตรภาพและความจริงใจเท่านั้น

        ขณะที่ Hun Manet นายกรฐมนตรีกัมพูชา เปิดเผยผ่านเฟบุ๊คส่วนตัวระบุ ขอร่วมแสดงความยินดีกับความสําเร็จในการประชุมวิสามัญของคณะกรรมการชายแดนกัมพูชา-ไทยโดยมีผู้สังเกตการณ์จากมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และสาธารณรัฐประชาชนจีน ในวันที่ 7 สิงหาคม 2025 ณ กัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย

การประชุมครั้งนี้เป็นการนําประเด็นที่เห็นด้วยระหว่างผมกับท่านภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักร ประเทศไทย ในการประชุมพิเศษที่พุทราจายา ประเทศมาเลเซียในวันที่ 28 กรกฎาคม 2025 โดยมาเลเซียและสหรัฐอเมริกาเข้าร่วมโดยมีการมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันจากสาธารณรัฐประชาชนจีน

กัมพูชา - ไทย ได้พูดคุยและเห็นด้วยเกี่ยวกับเงื่อนไขของการหยุดยิงและการปรับปรุงการสื่อสารระหว่างสองกองทัพ ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบให้จัดการประชุมร่วมกันของคณะกรรมการชายแดนชนบท (RBC) ภายในสองสัปดาห์ และประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปกัมพูชา-ไทย (GBC) ภายในหนึ่งเดือนหลังจากการประชุมวิสามัญ GBC ในกรณีที่มีความจําเป็นทั้งสองฝ่ายสามารถประชุมวิสามัญของคณะกรรมการชายแดนสามัญกัมพูชา-ไทย (Extraordinary GBC Meeting) ในรูปแบบเช่นนี้

ทั้งสองฝ่ายเห็นด้วยที่จะผลักดันการเตรียมความพร้อมของ Terms of Reference (TOR) สําหรับทีมผู้สังเกตการณ์อาเซียนโดยเร็วที่สุด โดยกลไกในการติดตามการหยุดยิง ในช่วงเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงให้ทีมผู้สังเกตการณ์ระหว่างกาล นําโดย กองทัพมาเลเซีย เข้าสังเกตการณ์ทันที และจัดทีมผู้สังเกตการณ์อาเซียนต่อไป

นอกเหนือจากกัมพูชา - ไทย การประชุมวิสามัญ GBC แล้ว มาเลเซียยังได้นําและประสานงานการอภิปรายเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมของข้อกําหนดอ้างอิง (TOR) สําหรับทีมผู้สังเกตการณ์อาเซียนกับการมีส่วนร่วมของกัมพูชาและ ประเทศไทย เพื่อเตรียมความพร้อมโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้และนํากลไกการติดตามมาใช้ การดําเนินการหยุดยิง และ กัมพูชา ยังขอปล่อยทหารกัมพูชา 18 นาย ภายใต้การดูแลกองทัพไทย



Theme images by fpm. Powered by Blogger.