Header Ads

เลือกตั้ง นายก อบจ. กับอนาคตของ "ประชาชน"

คอลัมน์ จับกระแสการเมือง #โดย สมศักดิ์ ไม้พรต #เว็บไซต์โลกธุรกิจ #เผยแพร่ 13 มกราคม 2568

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) และสมาชิกสภา อบจ. ที่จะมีขึ้นในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ถือเป็นการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นที่เดือดมากกว่าทุกครั้่งที่ผ่านมา

ถ้าถามว่าอะไรทำให้อุณหภูมิการเมืองท้องถิ่นเดือด

คำตอบคือ การเมืองระดับชาติลงไปฟัดกันเต็มตัวเพื่อแย่งชิงพื้นที่ เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้ ถูกจับไปผูกโยงกับการเลือกตั้งใหญ่ที่จะมีขึ้นในปี 2570 (กรณีรัฐบาลอยู่ครบวาระ 4 ปี) 

ฝ่ายหนึ่งเชื่อว่าหากยึดกุมพื้นที่การเมืองระดับจังหวัดได้จะทำให้ได้เปรียบในการเลือกตั้งระดับชาติ และยังเป็นการใช้การเมืองสนามเล็กวัดความนิยมในตัวผู้สมัครที่เป็นตระกูลบ้านใหญ่ในพื้นที่ว่ายังมีกำลังทางการเมืองมากน้อยแค่ไหน 

        ถ้ายังมีฤทธิ์เดชอยู่การจะกำชัยในสนามเลือกตั้งใหญ่ก็คงทำได้ไม่ยาก

แต่หากมนต์ตราของบ้านใหญ่ในพื้นที่เริ่มเสื่อมความขลัง ก็จะได้จัดทัพแต่งตัวเพื่อสู้ศึกเลือกตั้งสนามใหญ่กันใหม่

เรียกว่าเป็นการใช้สนามท้องถิ่นเพื่อประเมินว่าจะต้องมีการปรับเปลี่ยนอะไรหรือไม่ ก่อนที่จะทำศึกใหญ่ในวันข้างหน้า

ขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งขายความเป็นคนรุ่นใหม่ ขายวิธีการบริหารแบบใหม่ ขายวิสัยทัศน์ใหม่ ก็ต้องการพื้นที่แสดงฝีมือในเชิงบริหารให้เป็นที่ประจักษ์ ต้องการแสดงให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงในพื้นที่ที่ชัดเจน 

        เพื่อใช้ผลงานระดับท้องถิ่นไปต่อยอดทำศึกใหญ่ ปี 70

ลำพังจะขายกระแสอย่างเดียวเหมือนการเลือกตั้งปี 66 ที่ผ่านมาคงไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดีเหมือนเคย เพราะดาราระดับแม่เหล็กถูกจับใส่โหลดองทางการเมือง แม้จะยังช่วยส่งเสียงเรียกคะแนนได้ แต่คงไม่มากเหมือนเก่า

"ผลงาน" ในระดบท้องถิ่นเท่านั้นที่จะช่วยดึงคะแนนให้ฝ่ายตัวเองได้

ทำนองว่าถ้าบริหารท้องถิ่นได้ดี เป็นที่พอใจของประชาชนก็เอามาต่อยอดหาเสียงเลือกตั้งใหญ่ได้ว่า "บริหารท้องถิ่นยังทำได้ดีขนาดนี้ ถ้าประชาชนให้โอกาสบริหารประเทศจะทำได้ดีขนาดไหน"

แต่ย้ำว่าต้องมี "ผลงาน" ที่ชัดเจน ที่ประชาชนเห็นและสัมผัสได้ถึงความแตกต่างจากการบริหารท้องถิ่นของกลุ่มบ้านใหญ่ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมาเท่านั้น

ถ้าได้โอกาสบริหารท้องถิ่นแล้วทำไม่ได้ ประตูชัยในสนามเลือกตั้งใหญ่ก็คงปิดตายสำหรับพรรคส้ม

ด้วยเหตุปัจจัยนี้เองที่ทำให้สนามการเลือกตั้ง นายก อบจ. เดือดกว่าที่เคย เพราะในอดีตไม่เคยมีที่พรรคการเมืองจะจัดทัพใหญ่ลงไปช่วยผู้สมัครท้องถิ่นหาเสียงกันอย่างอึกทึกคึกโครมเหมือนที่ปรากฎให้เห็นอย่างในทุกวันนี้

แน่นอนว่าการเลือกตั้งนายก อบจ. 47 จังหวัด ที่จะมีขึ้นในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ นี้ ฝ่ายสีแดงคงกำชัยชนะได้เป็นส่วนใหญ่ 

ส่วนที่เหลือก็น่าจะเป็นของพวกบ้านใหญ่ที่ไม่ได้ลงสมัครในนามพรรคการเมืองโดยตรง แม้ลึกๆ คนทั่วไปจะรู้ว่ามีพรรคการเมืองใดหนุนหลังอยู่

ฝ่ายสีส้มที่ต้องการโอกาส ต้องการชัยชนะเป็นอย่างมากก็รู้กำลังตัวเองดีว่าคงไม่อาจตีฝ่าด่านบ้านใหญ่ที่ฝังรากลึกในพื้นที่มายาวนานได้ง่ายนัก

แต่ขอชัยชนะแค่สักสองสามจังหวัด หรือจะสักแค่หนึ่งจังหวัดก็ได้เพื่อที่จะมีพื้นที่แสดงฝีมือในเชิงบริหาร แสดงผลงานให้เห็นความแตกต่างที่สัมผัสได้อย่างชัดเจน 

        เพื่อใช้เป็นเชื้อต่อยอดหาเสียงเลือกตั้งใหญ่ปี 70

คงต้องตามดูว่าหลังปิดหีบลงคะแนน ฝ่ายสีส้มจะได้มาสักจังหวัดตามที่ต้องการหรือไม่

หรือจะปราชัยราบคาบเหมือนการเลือกตั้งซ่อม นายก อบจ.ในหลายจังหวัดก่อนหน้านี้ 


Theme images by fpm. Powered by Blogger.