DITP ปักหมุดไทยสู่ศูนย์กลางภาพยนตร์เอเชีย! เปิดเกมรุกตลาดโลกในงาน AFM 2025 ปิดดีลทะลุกว่า 1,000 ล้านบาท สร้างประวัติการณ์ใหม่ด้านคอนเทนต์ไทย
อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยเดินหน้าโกอินเตอร์อย่างเป็นรูปธรรม หลังกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศนำผู้ประกอบการไทย 14 บริษัท ร่วมเวทีซื้อขายภาพยนตร์ระดับโลก American Film Market 2025 สร้างดีลเจรจากว่า 304 นัดหมายใน 6 วัน กวาดมูลค่าการค้ารวม 1,031 ล้านบาท สะท้อนศักยภาพคอนเทนต์ไทย โดยเฉพาะแนวสยองขวัญและแอคชั่น ที่ได้รับความสนใจจากผู้ซื้อและแพลตฟอร์มชั้นนำทั่วโลก ตอกย้ำความพร้อมของไทยในการก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของเอเชียในระยะยาว
อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวอีกว่า “ความสำเร็จของผู้ประกอบการไทยในปีนี้สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ศักยภาพของคอนเทนต์ไทยกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น และสามารถตอบโจทย์ความต้องการของตลาดโลก ทั้งด้านการขายลิขสิทธิ์ การร่วมผลิต และการบริการถ่ายทำภาพยนตร์” โดยมีดีลสำคัญ อาทิ บริษัท เฮโล โปรดักชั่นส์ จำกัด เจรจากับผู้ซื้อลิขสิทธิ์จากสิงคโปร์ที่สนใจภาพยนตร์เรื่อง Replace Me ซึ่งอยู่ระหว่าง Post-production พร้อมทั้งพบผู้ลงทุนจากสหรัฐอเมริกาที่สนใจร่วมทุนในภาพยนตร์เรื่อง พริก มูลค่า 30 ล้านบาท ขณะที่บริษัท เอ็ม ดิสทริบิวชั่น จำกัด เปิดตลาดใหม่ในรัสเซีย สหรัฐอเมริกา และฟิลิปปินส์ โดยเฉพาะดีลขายภาพยนตร์เรื่อง หมู่บ้านโคกะโหลก ให้ผู้ซื้อจากฟิลิปปินส์ได้ภายในเวลาเพียง 5 นาที ซึ่งเป็นตัวอย่างของความเชื่อมั่นในคอนเทนต์ไทยที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ส่วนบริษัท อิ๊กดราซิล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้รับความสนใจสูงทั้งด้านลิขสิทธิ์และงานบริการ VFX โดยมีแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งอินเดียสนใจซื้อเรื่อง Home Sweet Home รวมถึงบริษัทจากสหรัฐอเมริกาที่ต้องการใช้บริการ VFX สำหรับภาพยนตร์ทั้งเรื่อง นอกจากนี้ บริษัท เบนีโทน ฟิล์มส์ จำกัด ได้รับการติดต่อจากบริษัทสหรัฐฯ ที่มีแผนเดินทางเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์สั้นในประเทศไทยเร็ว ๆ นี้ ซึ่งถือเป็นโอกาสดีในการต่อยอดธุรกิจบริการถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศด้วย”
“หนึ่งในจุดเด่นทำให้คอนเทนต์ไทยได้รับความสนใจอย่างมาก คือ ความแข็งแรงของคอนเทนต์ประเภทสยองขวัญและแอคชั่น ซึ่งเป็นแนวที่ไทยมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่น ทั้งวิธีเล่าเรื่อง บรรยากาศ ผสานวัฒนธรรม ความเชื่อ และเทคนิคการสร้างความตื่นเต้นที่ไม่เหมือนใคร ประกอบกับคุณภาพการผลิตและเทคนิคพิเศษระดับมาตรฐานสากล แต่ยังคงต้นทุนที่สามารถแข่งขันได้ ทำให้ผู้ซื้อจากแพลตฟอร์มระดับโลกให้ความสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากนี้ แนวโน้มตลาดสตรีมมิ่งทั่วโลกที่กำลังต้องการคอนเทนต์เอเชียที่มีเอกลักษณ์ชัดเจน และคอนเทนต์ไทยสามารถตอบโจทย์นี้ได้อย่างตรงจุด”
นางสาวสุนันทา กล่าวทิ้งท้ายว่า “DITP จะเดินหน้าสนับสนุนอุตสาหกรรมคอนเทนต์และภาพยนตร์ไทยอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านการตลาดระหว่างประเทศ การพาผู้ประกอบการไปเปิดตลาดใหม่ และการผลักดันอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ให้เป็นหนึ่งในกำลังสำคัญของเศรษฐกิจไทย โดยอาศัยจุดแข็งสำคัญของไทยทั้งด้านคอนเทนต์ที่มีเอกลักษณ์ คุณภาพการผลิตระดับโลก บุคลากรมืออาชีพ และระบบนิเวศน์ในการถ่ายทำภาพยนตร์ที่ครบวงจรและมีต้นทุนที่แข่งขันได้ เพราะการสร้างคอนเทนต์ไม่ใช่เพียงการขายผลงาน แต่คือการผลักดันอุตสาหกรรมที่สามารถสร้างคุณค่า สร้างรายได้ และสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้ประเทศไทยในระยะยาว ซึ่งผลสำเร็จในงาน AFM ปีนี้คือหลักฐานสำคัญว่าประเทศไทยพร้อมที่จะก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางภาพยนตร์เอเชียอย่างแท้จริง”







