“อนุทิน” ชิงยุบสภา! เลือกตั้งใหม่ไม่เกิน 8 กุมภาพันธ์ 2569
การเมืองถึงจุดเปลี่ยนแปลงสำคัญอีกครั้งเมื่อนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตัดสินใจทูลเกล้าพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร และมีการเผยแพร่พระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2568 ลงในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ทำให้มีผลบังคับใช้ทันที นับเป็นการเปิดทางไปสู่การเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหม่ หลังจากรัฐบาลประเมินแล้วว่า สถานการณ์การเมืองและเศรษฐกิจภายในประเทศรวมถึงความท้าทายด้านนโยบายต่างประเทศจำเป็นต้อง “รีเซ็ตอำนาจ” เพื่อให้รัฐบาลใหม่ได้รับฉันทามติที่ชัดเจนจากประชาชน
พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ระบุชัดว่า รัฐบาลเห็นว่าการดำรงอยู่ของสภาชุดเดิมในช่วงเวลานี้ ไม่อาจตอบโจทย์ความท้าทายขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาเศรษฐกิจในประเทศที่ต้องอาศัยมาตรการกระตุ้นให้เห็นผลเร่งด่วน ความผันผวนของเศรษฐกิจโลกที่ส่งผลโดยตรงต่อไทย สถานการณ์ความมั่นคงชายแดน รวมถึงความจำเป็นต้องปรับทิศทางนโยบายระหว่างประเทศให้เท่าทันบริบทภูมิรัฐศาสตร์ที่เปลี่ยนไป
ตามกฎหมายหลังยุบสภาต้องจัดเลือกตั้งใหม่ภายในไม่น้อยกว่า 45 วัน และต้องไม่เกิน 60 วัน ทำให้การเลือกตั้งอย่างช้าที่สุดต้องไม่เกินวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569
ด้านพรรคประชาชนที่สนับสนุนให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรีออกแถลงการณ์ต่อรัฐบาลพรรคภูมิใจไทยว่าด้วยการออกเสียงประชามติจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่และการยุบสภาระบุ
สืบเนื่องจากการลงมติแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 2 ในวันนี้ มีสาระประการสำคัญที่สมาชิกรัฐสภามีความเห็นแตกต่างกัน ได้แก่ การต้องใช้เสียง สว. 1 ใน 3 ในการผ่านร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ก่อนให้ประชาชนออกเสียงประชามติ ซึ่งเท่ากับเป็นการให้อำนาจ สว. ควบคุมเนื้อหาของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง
ในชั้นกรรมาธิการ พรรคภูมิใจไทยเห็นชอบตามกรรมาธิการเสียงข้างมาก ให้ใช้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของรัฐสภาในการผ่านร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยไม่ต้องใช้เสียง สว. 1 ใน 3 แต่ในวันนี้กลับโหวตเห็นชอบให้คงอำนาจ สว. ไว้ ซึ่งส่งผลให้การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่ดำเนินการอยู่นี้ไม่สามารถนำไปสู่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ประชาชนต้องการได้อย่างแท้จริง
ก่อนหน้านี้ พรรคประชาชนได้พยายามประคับประคองและประนีประนอมกับหลายฝ่าย เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการเปิดทางไปสู่การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของประชาชนภายใต้ข้อจำกัดทางการเมืองปัจจุบัน
แต่การแปรญัตติให้ สว. มีอำนาจคุมเนื้อหาสาระของร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ในวันนี้ ถือเป็นสาระสำคัญที่ขัดขวางการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของประชาชนในอนาคตอย่างที่ไม่สามารถจะยอมรับได้
ด้วยเหตุนี้ พรรคประชาชนจึงขอให้นายกรัฐมนตรียุบสภาเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อประชาชน และพรรคภูมิใจไทยควรดำเนินภารกิจสุดท้ายเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ คือให้รัฐบาลรักษาการมีมติ ครม. ภายในวันอังคารที่ 16 ธันวาคม เพื่อกำหนดวันออกเสียงประชามติเรื่องการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่คำถามที่ 1 เป็นวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569
แล้วพบกันที่คูหาเลือกตั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังพรรคประชาชนโพสต์แถลงกาณ์ลงในเพจเฟสบุ๊คของพรรคนายนายอนุทิน ได้เข้าเข้ามาตอบคอมเมนต์ สั้นๆ ว่า "ตามนั้นครับ"




