Header Ads

“บวรศักดิ์” กางไทม์ไลน์ เลือกตั้งควบประชามติแก้ รธน. 29 มี.ค.69


การประชุมรัฐสภา (สส.-สว.) เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเมรัฐธรรมนูญ ที่มี 3 พรรคการเมืองเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาประกอบด้วยร่างแก้ไขของพรรคเพื่อไทย พรรคประชาชน และพรรคภูมิใจไทย โดยสาระสำคัญของร่างแก้ไขทั้ง 3 ร่างคือการแก้ไขมาตรา 256 และเพิ่มเติมหมวด 15/1 เกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อเปิดทางให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ  สสร. ขึ้นมายกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

  หลังการอภิปรายรวมสองวัน ( 14-15 ตุลาคม 2568 ) ที่ประชุมลงมติโดยการขานชื่อทีละคนอย่างเปิดเผย ปรากฎว่าร่างแก้ไขทั้ง 3 ร่างมีคะแนนเสียงสนับสนุนเกินกึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกสองสภารวมกัน โดยร่างแก้ไขของพรรคภูมิใจไทยมีเสียงสนับสนุน 629 เสียง แยกเป็น สส. 462 เสียง สว. 167 เสียง ไม่เห็นชอบ 7 เสียง งดออกเสียง 15 เสียง ร่างแก้ไขของพรรคประชาชน มีคะแนนสนับสนุน 568 เสียง แยกเป็นสส. 460 เสียง สว. 108 เสียง ไม่เห็นชอบ 10 เสียง งดออกเสียง 74 เสียง ขณะที่ร่างแก้ไขของพรรคเพือไทย ได้รับคะแนนเสียงสนับสนุน  521 เสียง แยกเป็น สส. 461 เสียง สว. 60 เสียง ไม่เห็นชอบ 16 เสียง งดออกเสียง 115 เสียง

อย่างไรก็ตามแม้ร่างแก้ไขทั้ง 3 ร่างจะมีเสียงสนับสนุนเกินกึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งสองสภารวมกัน แต่ร่างแก้ไขของพรรคเพื่อไทยถือว่าไม่ผ่านความเห็นของจากสภา เนื่องจากมีเสียงสนับสนุนจาก สว.ไม่ถึง 1 ใน 3 ของจำนวน สว. ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่กำหนดเอาไว้ในรัฐธรรมนูญ โดยขาดเสียงสนับสนุนตามเกณฑ์ไปเพียง 6 เสียงเท่านั้น

นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงไทม์ไลน์การแก้ไขรัฐธรรมนูญในที่ประชุมรัฐสภา โดยระบุว่า หากทำประชามติตามกฎหมายประชามติเดิม กรณีกฎหมายประชามติใหม่ประกาศใช้ไม่ทันกำหนดยุบสภาภายใน 4 เดือนตามข้อตกลงระหว่างพรรคภูมิใจไทยกับพรรคประชาชน รัฐบาลจะทำงานครบ 4 เดือนหลังการแถลงนโยบายต่อสภา วันที่ 31 มกราคม 2569 ถ้ายุบสภาวันนั้นจะต้องจัดเลือกตั้งใหม่ภายใน 45-60 วัน ซึ่งวันที่เหมาะสมที่สุดคือวันอาทิตย์ที่ 29 มีนาคม 2569 ซึ่งการลงประชามติจะทำพร้อมกับการเลือกตั้งเพื่อประหยัดงบประมาณกว่า 6,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตามหากจะเป็นไปตามกำหนดนี้รัฐสภาจะต้อลงมติรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระที่ 3 ไม่เกินวันที่ 15 - 20 ธันวาคม 2568

แต่หากกฎหมายประชามติใหม่ที่ได้นำขึ้นทูลเกล้าฯไปแล้วมีผลบังคับใช้ ตามกฎหมายใหม่จะลดเวลาการลงประชามติหลังประกาศให้มีการทำปะชามติจาก 90 วันเหลือ 60 วัน วันสุดท้ายที่สภาจะลงมติให้ความเห็นชอบร่างแก้ไขวาระ 3 ได้คือวันที่ 29 มกราคม 2569 ส่วนการยุบสภากับวันเหมาะสมจัดเลือกตั้งถ้ายึกตามข้อตกลงของสองพรรคก็จะเป็นไปตามกำหนดเดิม

"กรอบเวลานี้เป็นไปตามข้อตกลงระหว่างพรรคภูมิใจไทยกับพรรคประชาชน ไม่ใช่การก้าวก่ายอำนาจสภาในการพิจารณาร่างแก้ไขเพียงแต่ฉายภาพให้เห็นเท่านั้น"รองนายกรัฐมนตรี กล่าว

Theme images by fpm. Powered by Blogger.