ครม.ไฟเขียว “คนละครึ่งพลัส” 20 ล้านสิทธิ์ เริ่มใช้ 29 ต.ค.นี้

วันที่ 7 ตุลาคมคม 2568 นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงเปิดตัว “โครงการคนละครึ่งพลัส” มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเรือธงช่วงไตรมาส 4 เพื่อกระตุ้นการบริโภคและป้องกันเศรษฐกิจชะลอตัว โดยได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีเป็นที่เรียบร้อย

นายเอกนิติระบุว่า “คนละครึ่งพลัส” จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้ประชาชน 20 ล้านสิทธิ ผ่านการร่วมจ่ายระหว่างรัฐกับประชาชน โดยรัฐสมทบสูงสุด 200 บาทต่อวัน เพิ่มจากเดิม 150 บาท โดยผู้อยู่ในระบบภาษีจะได้รับ 2,400 บาท ประชาชนทั่วไป 2,000 บาท ถือเป็นมาตรการ “กระตุ้นสั้น ได้ผลยาว กระจายตัวทั่วประเทศ”

โครงการนี้มี 5 จุดพลัสหลัก ได้แก่

ลดอายุผู้มีสิทธิเข้าร่วมจาก 18 ปี เหลือ 16 ปี เพื่อเพิ่มกำลังซื้อต่อเนื่องถึงกลุ่มวัยรุ่น

เพิ่มวงเงินสมทบจาก 150 เป็น 200 บาทต่อวัน

ให้สิทธิกับผู้ประกอบการรายย่อยและนิติบุคคลที่มีรายได้ไม่เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี

ขยายการใช้จ่ายผ่านแอป “เป๋าตัง” และ “ถุงเงิน” ที่ประชาชนคุ้นเคย เพื่อความรวดเร็วในการดำเนินการ

พัฒนาและอัพสกิลร้านค้ารายย่อยด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล เช่น AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขายและลดต้นทุน

รัฐบาลใช้งบประมาณจากปี 2569 รวม 44,000 ล้านบาท (งบประมาณปี 69 จำนวน 25,000 ล้านบาท และงบกลางอีก 19,000 ล้านบาท) รวมกับเงินร่วมจ่ายของประชาชนและบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็นวงเงินรวมราว 1 แสนล้านบาท คาดกระตุ้น GDP ได้ราว 0.3 - 0.4%

ทั้งนี้ ร้านค้าจะเปิดลงทะเบียนเข้าร่วมได้ตั้งแต่ 15 ตุลาคมนี้ ขณะที่ประชาชนจะเปิดลงทะเบียนระหว่าง 20–26 คุลาคม. และเริ่มใช้สิทธิได้ 29 ตุลาคม - 31 ธันวาคม 2568

นายเอกนิติย้ำว่า โครงการนี้เป็นไปตามแนวคิด “Quick Big Win” ของรัฐบาล เพื่อสร้างแรงกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นที่ส่งผลเชิงบวกในระยะยาว