สิงคโปร์–ไทย ยกระดับความสัมพันธ์ด้านการค้าสีเขียวและการลงทุนทางธุรกิจในงาน Singapore Regional Business Forum ณ กรุงเทพฯ
● ข้อตกลงการดำเนินงานความร่วมมือด้านคาร์บอนเครดิตครั้งแรกระหว่างสิงคโปร์และประเทศในอาเซียน
● สภาธุรกิจสิงคโปร์ (SBF) และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนแห่งประเทศไทย (BOI) ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อเสริมสร้างและยกระดับความร่วมมือด้านการลงทุนระหว่างไทยและสิงคโปร์
● งานประชุม Singapore Regional Business Forum (SRBF) จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–สิงคโปร์ เชื่อมโยงภาคธุรกิจจากสิงคโปร์กว่า 180 รายกับคู่ค้าทางธุรกิจในประเทศไทย
วันอังคารที่ 19 สิงหาคม 2568 – สภาธุรกิจสิงคโปร์ (Singapore Business Federation: SBF) ได้จัดงาน Singapore Regional Business Forum (SRBF) ครั้งที่ 9 ขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ณ กรุงเทพมหานคร เนื่องในโอกาสครบรอบ 60 ปีแห่งความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสิงคโปร์และไทย โดยงานในครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมกว่า 450 คน จาก 25 ประเทศ ภายในงานได้รวบรวมผู้กำหนดนโยบาย ผู้นำทางธุรกิจ นักลงทุน และสมาคมอุตสาหกรรม เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับการเติบโตและการบูรณาการของเอเชีย ภายใต้หัวข้อ “Business Resilience in Asia: Thriving Amid Global Uncertainty and Trade Shifts” ท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกที่ส่งผลต่อภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจ ความร่วมมือระดับภูมิภาคจึงมีความสำคัญยิ่ง การประชุมในครั้งนี้จึงมีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างภาคส่วนต่าง ๆ ซึ่งจะส่งเสริมการขับเคลื่อนการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของเศรษฐกิจโลก และสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจในระยะยาว
ช่วงสำคัญของงาน ได้แก่ ปาฐกถาพิเศษโดย ดร. ซี เล้ง ตัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และรัฐมนตรีรับผิดชอบกระทรวงพลังงาน วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ประเทศสิงคโปร์ และคุณพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดยผู้นำทั้งสองท่านได้เน้นย้ำถึงนโยบายที่ยืดหยุ่นสามารถปรับเปลี่ยนได้ นวัตกรรมข้ามพรมแดน และการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจสีเขียว ว่าเป็นกุญแจสำคัญในการปลดล็อกศักยภาพทางเศรษฐกิจของอาเซียนอย่างเต็มรูปแบบ อีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญของงานประชุม คือการลงนามในความร่วมมือด้านคาร์บอนเครดิตระหว่างสิงคโปร์-ไทย ซึ่งถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญในความร่วมมือด้านสภาพภูมิอากาศข้ามพรมแดน และยังเป็นข้อตกลงความร่วมมือด้านคาร์บอนเครดิตฉบับแรกที่สิงคโปร์ได้ลงนามกับประเทศสมาชิกอาเซียน โดยข้อตกลงที่ลงนามโดย ดร. ซี เล้ง ตัน และดร. เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ถือเป็นก้าวสำคัญสู่การขับเคลื่อนกลไกตลาดคาร์บอนเครดิตในภูมิภาค
ในส่วนของหัวข้อการประชุมย่อยภายในงาน ได้มุ่งเน้นไปที่การเงินสีเขียวและพลังงานสะอาด การเชื่อมโยงระดับภูมิภาคและการค้าดิจิทัล รวมถึงโซลูชันทางธุรกิจ การพูดคุยในเวทีสนทนายังได้เน้นถึงบทบาทที่โดดเด่นของประเทศไทยในฐานะผู้นำเศรษฐกิจสีเขียว ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากการลงทุนในพลังงานสะอาด นวัตกรรม และกรอบการกำกับดูแลที่สอดคล้องกับเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศ ซึ่งทำให้ประเทศไทยเป็นผู้มีส่วนร่วมสำคัญในอนาคตที่ยั่งยืนของอาเซียน
“ในขณะที่เศรษฐกิจของอาเซียนยังคงเติบโตและเปลี่ยนแปลงไป ความร่วมมือในระดับภูมิภาคจะเป็นกุญแจสำคัญในการปลดล็อกความก้าวหน้าที่ยั่งยืนและครอบคลุม ที่ธนาคารกรุงเทพ เราเชื่อมั่นในการสร้างพันธมิตรระยะยาวที่ไม่เพียงแต่ขับเคลื่อนนวัตกรรมและการเชื่อมต่อ แต่ยังสร้างโอกาสสำหรับภาคธุรกิจและชุมชนในทุกประเทศ” กล่าวโดย คุณชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ
สภาธุรกิจสิงคโปร์ยังได้จัดเวิร์กช็อป "Overseas Marketplace Workshop" ซึ่งเปิดโอกาสให้บริษัทสิงคโปร์ 17 แห่งได้สำรวจโอกาสทางการตลาดในประเทศไทย ซึ่งเป็นการเสริมความแข็งแกร่งให้กับอาเซียนในฐานะกลุ่มเศรษฐกิจที่มีความเป็นเอกภาพและสามารถแข่งขันได้
การประชุมครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากธนาคารกรุงเทพ ในฐานะพันธมิตรระดับแพลตตินัม, เคอรี่ ฟลาวมิลล์ (Kerry Flour Mills), แปซิฟิค อินเตอร์เนชั่นแนล ไลน์ (PIL) และ PSA International ในฐานะพันธมิตรระดับโกลด์, เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ในฐานะพันธมิตรด้านสถานที่จัดงาน ธนาคารยูโอบีในฐานะพันธมิตรระดับสากล แกร็บในฐานะพันธมิตรระดับซิลเวอร์ รวมถึง กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมสิงคโปร์, สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนแห่งประเทศไทย (BOI), คณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจสิงคโปร์, Enterprise Singapore, สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสิงคโปร์ประจำประเทศไทย, และสมาคมการค้าและหอการค้าเกือบ 30 แห่ง ซึ่งงานในครั้งนี้ได้ยืนยันบทบาทในการส่งเสริมการรวมกลุ่มในระดับภูมิภาคและการเตรียมความพร้อมสำหรับภูมิทัศน์ทางธุรกิจในอนาคตทั่วทั้งภูมิภาค
“ในขณะที่เศรษฐกิจของอาเซียนยังคงเติบโตและเปลี่ยนแปลงไป ความร่วมมือในระดับภูมิภาคจะเป็นกุญแจสำคัญในการปลดล็อกความก้าวหน้าที่ยั่งยืนและครอบคลุม ที่ธนาคารกรุงเทพ เราเชื่อมั่นในการสร้างพันธมิตรระยะยาวที่ไม่เพียงแต่ขับเคลื่อนนวัตกรรมและการเชื่อมต่อ แต่ยังสร้างโอกาสสำหรับภาคธุรกิจและชุมชนในทุกประเทศ” กล่าวโดย คุณชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ
สภาธุรกิจสิงคโปร์ยังได้จัดเวิร์กช็อป "Overseas Marketplace Workshop" ซึ่งเปิดโอกาสให้บริษัทสิงคโปร์ 17 แห่งได้สำรวจโอกาสทางการตลาดในประเทศไทย ซึ่งเป็นการเสริมความแข็งแกร่งให้กับอาเซียนในฐานะกลุ่มเศรษฐกิจที่มีความเป็นเอกภาพและสามารถแข่งขันได้
การประชุมครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากธนาคารกรุงเทพ ในฐานะพันธมิตรระดับแพลตตินัม, เคอรี่ ฟลาวมิลล์ (Kerry Flour Mills), แปซิฟิค อินเตอร์เนชั่นแนล ไลน์ (PIL) และ PSA International ในฐานะพันธมิตรระดับโกลด์, เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ในฐานะพันธมิตรด้านสถานที่จัดงาน ธนาคารยูโอบีในฐานะพันธมิตรระดับสากล แกร็บในฐานะพันธมิตรระดับซิลเวอร์ รวมถึง กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมสิงคโปร์, สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนแห่งประเทศไทย (BOI), คณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจสิงคโปร์, Enterprise Singapore, สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสิงคโปร์ประจำประเทศไทย, และสมาคมการค้าและหอการค้าเกือบ 30 แห่ง ซึ่งงานในครั้งนี้ได้ยืนยันบทบาทในการส่งเสริมการรวมกลุ่มในระดับภูมิภาคและการเตรียมความพร้อมสำหรับภูมิทัศน์ทางธุรกิจในอนาคตทั่วทั้งภูมิภาค
เกี่ยวกับสภาธุรกิจสิงคโปร์ (SBF)
สภาธุรกิจสิงคโปร์ (SBF) เป็นหอการค้าหลักที่มีสมาชิกกว่า 32,000 ราย ครอบคลุมทุกภาคอุตสาหกรรม ภายใต้วิสัยทัศน์ที่จะพัฒนาสิงคโปร์สู่เศรษฐกิจที่แข่งขันได้ในระดับสากลและยั่งยืน SBF ขับเคลื่อนธุรกิจให้พร้อมรับอนาคต และเสริมสร้างโอกาสการพัฒนา ผ่านการผลักดันเชิงนโยบาย แพลตฟอร์มความร่วมมือ และโครงการพัฒนาศักยภาพ“เสริมพลังให้อุตสาหกรรมผ่านนวัตกรรมที่ใช้ได้จริง” : นายทินกร อัษฎาธร กรรมการผู้จัดการ เคอรี่ ฟลาวมิลล์
“PIL เป็นเกียรติที่ได้เป็นผู้สนับสนุนการจัดงาน SRBF Forum ณ กรุงเทพฯ ในฐานะที่เป็นสายการเดินเรือสัญชาติสิงคโปร์ ประเทศไทยถือเป็นส่วนสำคัญในเครือข่ายของเรา และ PIL ได้เพิ่มบทบาทในประเทศไทยด้วยการจัดตั้งสำนักงานตัวแทนในกรุงเทพฯ เราสามารถเชื่อมต่อธุรกิจไปยังสิงคโปร์และโอเชียเนียได้โดยตรงจากประเทศไทย และผ่านสิงคโปร์และจีนไปยังเส้นทางการค้าหลักของเราในอเมริกาใต้ แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอินเดีย งานฟอรั่มครั้งนี้จึงเป็นโอกาสอันมีค่าสำหรับเราในการนำเสนอบริการของเรา และเข้าร่วมการสนทนากับพันธมิตรและลูกค้าเพื่อขยายการค้าในประเทศไทยและภูมิภาคนี้” : Mr Lionel Chatelet หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการพาณิชย์ แปซิฟิค อินเตอร์เนชั่นแนล ไลน์ (PIL)
“PSA รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เข้าร่วมงาน Singapore Regional Business Forum ซึ่งเป็นเวทีที่รวมผู้นำและพันธมิตรจากทั่วภูมิภาค เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจและแสวงหาโอกาสใหม่ ๆ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของการค้าโลกมาอย่างยาวนาน และเราจะยังคงทำงานร่วมกับพันธมิตรที่มีวิสัยทัศน์ร่วมกัน เพื่อพัฒนาห่วงโซ่อุปทานที่พร้อมสำหรับอนาคต เชื่อมโยงชุมชน และขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ สำหรับการจัดงาน Forum ในประเทศไทยปีนี้ เรามั่นใจในศักยภาพการเติบโตของประเทศ และพร้อมมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์โซลูชันด้านท่าเรือและโลจิสติกส์ที่แข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพ เพื่อยกระดับบทบาทของไทยในฐานะประตูสำคัญของภูมิภาค” : Mr Nelson Quek ประธานเจ้าหน้าที่บริหารระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ PSA International
“เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ภูมิใจที่ได้หยั่งรากลึกทั้งในสิงคโปร์และประเทศไทย ซึ่งเป็นสองแหล่งเศรษฐกิจที่มีพลังและมีบทบาทสำคัญในการกำหนดอนาคตของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในฐานะบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่มีธุรกิจแข็งแกร่งทั่วภูมิภาค เรามั่นใจในศักยภาพระยะยาวของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และพร้อมเดินหน้าสร้างโอกาสผ่านพลังของความร่วมมือ ที่จะขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืนและแข็งแรง เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้สนับสนุนงาน Singapore Regional Business Forum และร่วมเฉลิมฉลองความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างสองประเทศ ณ วัน แบงค็อกโครงการแฟล็กชิประดับโลกของเรา ซึ่งเป็นหมุดหมายใหม่ของการพัฒนาเมืองอัจฉริยะที่ยั่งยืนและครอบคลุม” : นายลิม ฮัว เทียง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ตลาดเกิดใหม่ ภูมิภาคเอเชีย และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร วัน แบงค็อก เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้
“สิ่งที่ทำให้ธนาคารยูโอบีแตกต่างคือความสามารถในการเชื่อมต่อธุรกิจทั่วอาเซียนได้อย่างไร้รอยต่อ โดยผสานการให้บริการด้าน FDI Advisory เข้ากับความเชี่ยวชาญเฉพาะในอุตสาหกรรม มุมมองเชิงลึกระดับภูมิภาค และเครือข่ายที่เชื่อมต่ออย่างสมบูรณ์ ในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน บริษัทต่าง ๆ ต้องการมากกว่าการสนับสนุนทางการเงิน พวกเขาต้องการพันธมิตรที่เข้าใจความซับซ้อนของการทำธุรกิจข้ามพรมแดนและนี่คือบทบาทหน้าที่ของธนาคารยูโอบี การเข้าร่วมงาน Singapore Regional Business Forum ครั้งนี้ยืนยันถึงความมุ่งมั่นของเราในการสนับสนุนให้ทั้งผู้ประกอบการไทยและสิงคโปร์เติบโตอย่างมั่นใจในภูมิภาค” : นายริชาร์ด มาโลนี่ย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย
บันทึกความเข้าใจระหว่างสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนแห่งประเทศไทยและสภาธุรกิจสิงคโปร์
รายละเอียดบันทึกความเข้าใจคู่สัญญา ก. สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (นาย นฤต ธีรศิษฐกุลดิ์ เลขาธิการ)
คู่สัญญา ข. สภาธุรกิจสิงคโปร์ (Mr. Kok Ping Soon ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร)
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนแห่งประเทศไทย (BOI) และ สภาธุรกิจสิงคโปร์ (SBF) ได้ทำบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อส่งเสริมและเสริมสร้างความร่วมมือด้านการลงทุนระหว่างประเทศไทยและสิงคโปร์ บันทึกความเข้าใจฉบับนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของทั้งสองฝ่ายในการส่งเสริมความเข้าใจอันดีและความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ ผ่านการแลกเปลี่ยนข้อมูล การสนับสนุนกิจกรรมการลงทุนของภาคธุรกิจ และการเข้าร่วมโครงการความร่วมมือร่วมกัน การลงนามบันทึกความเข้าใจครั้งนี้ จัดขึ้นภายในงาน Singapore Regional Business Forum (SRBF) 2025 ณ กรุงเทพมหานคร ตอกย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือทวิภาคีในภาคเศรษฐกิจที่สำคัญ และสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศในการขยายความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและดึงดูดการลงทุนคุณภาพเข้าสู่ภูมิภาค
บันทึกความเข้าใจฉบับนี้นับเป็นก้าวสำคัญในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนระหว่างสิงคโปร์และประเทศไทย โดยเป็นกลไกเชิงโครงสร้างในการส่งเสริมความร่วมมือระดับภาคธุรกิจ การแบ่งปันข้อมูลด้านการลงทุน และการร่วมกันจัดงานสำคัญ อาทิเช่น การประชุมอาเซียน (ASEAN Conference) ทั้งนี้ ข้อตกลงมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนการลงทุนข้ามพรมแดนในสาขาที่มีความสำคัญ อาทิเช่น ชีววิทยาศาสตร์อุตสาหกรรม (Biotechnology) อิเล็กทรอนิกส์ การแปรรูปอาหาร การท่องเที่ยว และสาขาอื่น ๆ อันจะมีส่วนช่วยขับเคลื่อนการบูรณาการทางเศรษฐกิจในภูมิภาคและส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืน
ในการประชุมมีการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างสภาธุรกิจสิงคโปร์ (SBF) กับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนแห่งประเทศไทย (BOI) เพื่อกระชับความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน และการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ