ส.อ.ท. แนะรัฐเร่ง FTA–MiT สู้ศึกการค้าโลก ปลดล็อกอุตสาหกรรมก้าวสู่เศรษฐกิจยั่งยืน
วันที่ 15 กรกฎาคม 2568 นายวิวรรธน์ เหมมณฑารพ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ได้ร่วมบรรยายในงานสัมมนา iBusiness Forum 2025 ภายใต้หัวข้อ “Decode 2025: The Mid-Year Signal ถอดสัญญาณเศรษฐกิจโลก พลิกอนาคตเศรษฐกิจไทย” เพื่อชี้ให้เห็นถึงภาพรวมเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีแรก และแนวทางการฟื้นตัวของภาคอุตสาหกรรมไทยในครึ่งปีหลัง ท่ามกลางความท้าทายรอบด้าน ณ ห้อง Meeting Room (MR) 210-211 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
นายวิวรรธน์เผยว่า เศรษฐกิจไทยในช่วงหกเดือนแรกของปี 2568 แม้จะมีสัญญาณบวกจากการส่งออกที่ขยายตัวถึง 14.9% เมื่อเทียบกับปีก่อน และมูลค่าการลงทุนใหม่ที่พุ่งขึ้นเกือบ 97% แต่กลับถูกกดดันด้วยภาคการท่องเที่ยวที่ยังไม่ฟื้นเต็มที่ นักท่องเที่ยวต่างชาติลดลงกว่า 4% รวมถึงภาคการผลิตที่เติบโตเพียง 0.6% ขณะที่หนี้ครัวเรือนยังอยู่ในระดับสูงถึง 87.4% ของ GDP และยอดเปิดโรงงานใหม่หดตัวลงเกือบครึ่ง
สำหรับครึ่งปีหลัง ปัจจัยเสี่ยงที่ต้องจับตา ได้แก่ มาตรการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ที่ยังคงใช้อัตรา Reciprocal Tariffs สูงถึง 36% กับสินค้าหลายประเภทจากไทย สงครามการค้าที่ยังยืดเยื้อ ปัญหาสินค้าทุ่มตลาดจากจีน และการสวมสิทธิ์ส่งออกที่กดดันความสามารถแข่งขันของผู้ประกอบการไทย ขณะเดียวกัน สถานการณ์ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ เช่น ความตึงเครียดระหว่างอิสราเอล-อิหร่าน และปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ก็สร้างแรงกระเพื่อมต่อการค้าชายแดน ซึ่งไทยพึ่งพาสูงถึงกว่า 40%
ประเด็นสงครามการค้ากับสหรัฐฯ ยังเป็นปัจจัยที่อุตสาหกรรมไทยต้องเฝ้าระวัง เนื่องจากสินค้ากลุ่มหลัก เช่น เครื่องจักร ยาง รถยนต์ และเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งพึ่งพาตลาดสหรัฐฯ กว่า 20% อาจถูกกระทบหนัก นอกจากนี้ สหรัฐฯ ยังออกมาตรการควบคุมการส่งออกเทคโนโลยีสำคัญอย่างชิป AI ซึ่งกระทบห่วงโซ่การผลิตไทยและอาเซียน
ด้านความสัมพันธ์กับกัมพูชา ปัญหาการปิดด่านชายแดนหรือการจำกัดนำเข้าสินค้าเกษตรและอาหารสดจากไทย ทำให้การค้าชายแดน ซึ่งเป็นเส้นเลือดสำคัญของผู้ประกอบการรายย่อย เสี่ยงสะดุด โดยเฉพาะด่านอรัญประเทศที่มีสัดส่วนสูงถึง 62% ของการค้ารวมระหว่างสองประเทศ
ในอีกมิติหนึ่ง ปัญหาหนี้ครัวเรือนยังคงกดดันการบริโภคภายใน โดยยอดหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ในสินเชื่อรถยนต์และบ้านปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงภาระทางการเงินของครัวเรือนไทยที่ยังเปราะบาง
แม้ภาพรวมจะเผชิญความท้าทาย ส.อ.ท. ยังชี้ว่า นี่คือโอกาสสำคัญในการเร่งยกระดับอุตสาหกรรมไทยให้ก้าวสู่เศรษฐกิจใหม่ ผ่านการลงทุนด้าน Digital & AI นวัตกรรม และการขับเคลื่อนสู่เศรษฐกิจสีเขียวตามแนวทาง BCG Model ทั้ง Bio Economy, Circular Economy และ Green Economy เพื่อบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ภายในปี 2608
นอกจากนี้ นายวิวรรธน์ ยังได้เสนอข้อแนะต่อภาครัฐ ให้เร่งปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม เสริมขีดความสามารถทางเทคโนโลยีและนวัตกรรม เร่งเจรจาเขตการค้าเสรี (FTA) ใหม่ กระจายตลาดส่งออก ตรวจเข้มสินค้าสวมสิทธิ์ และผลักดันการใช้ Local Content หรือ Made in Thailand (MiT) เพื่อยกระดับความยั่งยืนและลดการพึ่งพาตลาดเดิม
ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลก “Decode 2025” จึงตอกย้ำภาพชัดว่า ครึ่งปีหลังของปีนี้ ภาคอุตสาหกรรมไทยต้องเร่ง “ปลดล็อก” ศักยภาพใหม่ ปรับตัวด้วยความรวดเร็ว มุ่งสร้างโอกาสจากเทคโนโลยีสีเขียวและนวัตกรรม เพื่อให้สามารถฝ่าวิกฤตการค้าและความไม่แน่นอนได้อย่างยั่งยืนต่อไป
---------------------------------
ที่มา : สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย