เปิดแสดงความเห็น ร่างพ.ร.บ.อากาศสะอาด ก่อนส่งสภาฯลงมติชี้ขาด
สำนักประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เผยแพร่ข่าวพร้อมภาพประกอบการแถลงข่าวของนายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ประธานคณะกรรมาการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.บริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด พ.ศ. เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2568 ระบุ กมธ. ได้พิจารณาร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าว เสร็จเรียบร้อยแล้ว มีทั้งหมด 10 หมวด ได้แก่ หมวด 1 บททั่วไป หมวด 2 คณะกรรมการและองค์กรเพื่อการบริหารจัดการอากาศสะอาด หมวด 3 เครื่องมือและกลไกในการบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด หมวด 4 การป้องกันและควบคุมมลพิษทางอากาศจากแหล่งกำเนิดมลพิษ หมวด 5 เขตเฝ้าระวังมลพิษทางอากาศและเขตประสบมลพิษทางอากาศ หมวด 6 เครื่องมือและมาตรการทางเศรษฐศาสตร์เพื่ออากาศสะอาด หมวด 6/1 กองทุนอากาศสะอาด หมวด 7 เจ้าพนักงานอากาศสะอาด ซึ่งคณะ กมธ. ตัดออกเพราะนำไปกำหนดรวมอยู่ในหมวด 2 หมวด 8 ความรับผิดทางแพ่ง หมวด 9 โทษทางอาญา และหมวด 10 มาตรการปรับเป็นพินัย
โดยจะมีการเปิดรับฟังความคิดเห็นผ่านเว็บไซต์ https://shorturl.asia/eEmMq เป็นเวลา 15 วัน ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 25 กรกฎาคม - วันศุกร์ที่ 8 สิงหาคม 2568 ซึ่งเนื้อหาในการรับฟังความคิดเห็นประกอบด้วย ร่าง พ.ร.บ. สรุปสาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ. และประเด็นคำถาม หลังจากนั้น กมธ. จะนำผลการรับฟังความคิดเห็นมาพิจารณาอีกครั้งก่อนเสนอร่าง พ.ร.บ. ต่อสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาต่อไป
ทั้งนี้ กมธ. ได้พิจารณากันอย่างเต็มที่ ครบถ้วน และเข้าใจว่ากฎหมายฉบับนี้อาจไม่ใช่คำตอบของทุกสิ่งแต่จะเป็นจุดเริ่มต้นครั้งใหญ่ในการต่อสู้เรื่อง PM 2.5 และทวงคืนอากาศบริสุทธิ์ให้กับคนไทย
น.ส.คนึงนิจ ศรีบัวเอี่ยม รองประธาน กมธ. กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้เป็นฉบับแรกที่ประชาชนได้เข้าชื่อกัน 10,000 รายชื่อ แล้วเข้ามาร่วมกันกับร่างอื่น ๆ หลอมรวมออกมาเป็นฉบับที่คณะ กมธ. พิจารณาร่วมกัน ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจ จึงขอเชิญชวนให้ชาวไทยภูมิใจในเนื้อหาของร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ เนื่องจากเป็นร่าง พ.ร.บ. ฉบับที่สถาปนาสิทธิในอากาศสะอาดเป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสิทธิในสิ่งแวดล้อม และขณะนี้ UN ได้ประกาศให้เป็นสิทธิมนุษยชนประเภทหนึ่งแล้ว โดยสิ่งเหล่านี้จะก่อให้เกิดหน้าที่ของรัฐตามมา ทั้งตามรัฐธรรมนูญและตาม พ.ร.บ. ฉบับนี้ด้วย
นายภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ กมธ. กล่าวเพิ่มเติ่มว่า กมธ. ได้นำร่าง พ.ร.บ. 7 ร่าง ในวาระแรก มาพิจารณาร่วมกันทั้งหมด โดยหลังจากเปิดรับฟังความคิดเห็นในวันศุกร์ที่ 25 กรกฎาคม นี้ จะนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในวาระ 2 และวาระ 3 และมั่นใจว่าทุกพรรคการเมืองจะเห็นตรงกันในเรื่องของหลักการและเหตุผลความสำคัญของร่าง พ.ร.บ. นี้ ทั้งนี้ ขอขอบคุณภาคประชาชนซึ่งเป็นผู้ริเริ่มร่าง พ.ร.บ. นี้ และขอบคุณคณะรัฐมนตรีที่เห็นถึงความสำคัญและบรรจุเป็นวาระเร่งด่วนเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ตั้งแต่เมื่อปี 2567 และขอบคุณทุกพรรคการเมือง ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านที่ร่วมกันทำงานอย่างแข็งขันในคณะ กมธ. และคณะอนุ กมธ. มาตลอดเป็นเวลา 1 ปี 6 เดือน เพื่อทำให้ร่าง พ.ร.บ. นี้ เสร็จสมบูรณ์พร้อมใช้เป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนในการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศอย่างยั่งยืนให้กับประชาชนชาวไทยต่อไป
ติดตามชมคลิปแถลงข่าว https://youtu.be/j7V0qd60dgk