เปิดตัว HONOR 400 Series ชู AI อัจฉริยะกว่า 40 แบบ เปลี่ยนภาพนิ่งเป็นวิดีโอ กล้อง 200MP แบต 6,000mAh ชาร์จไว 100W
16 มิถุนายน 2568, กรุงเทพฯ – ออเนอร์ (HONOR) ผู้ให้บริการอุปกรณ์อัจฉริยะชั้นนำระดับโลก ประกาศเปิดตัวสมาร์ตโฟนเรือธงรุ่นล่าสุด HONOR 400 Series สู่ตลาดประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการยกระดับนวัตกรรมการถ่ายภาพด้วย AI โดยรุ่นท็อปอย่าง HONOR 400 Pro มาพร้อมกล้องหลัก 200MP Ultra-clear Advance AI และ Creative Advance AI Editing มากกว่า 40 แบบ ตอบโจทย์ผู้ใช้งานรอบด้าน พร้อมฟีเจอร์ใหม่อย่าง AI Image to VDO เจ้าแรกของโลก ในการเปลี่ยนภาพถ่ายให้กลายเป็นวิดีโออัตโนมัติบนสมาร์ตโฟน เสริมพลังด้วยแบตเตอรี่ซิลิคอนคาร์บอนความจุ 6,000mAh ชาร์จไว 100W มอบประสบการณ์การใช้งานที่ต่อเนื่องและทรงพลัง เปิดตัวในราคา 19,990 บาท นอกจากนี้ HONOR ยังต่อยอดความสำเร็จ ด้วยการดึง “อิงฟ้า วราหะ” กลับมาเป็นพรีเซนเตอร์ และ HONOR’s Friend เป็นปีที่สอง เพื่อถ่ายทอดตัวตนของผู้หญิงยุคใหม่ที่มั่นใจ ทันสมัย และเต็มเปี่ยมด้วยพลังสร้างสรรค์ สะท้อนภาพลักษณ์ที่โดดเด่นของ HONOR 400 Series ได้อย่างลงตัว
เอ็ดเวิร์ด หลัว ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร บริษัท นิวเลจเจินด์ อินดัสเทรียล จำกัด และผู้จัดจำหน่ายแบบครบวงจร HONOR ประเทศไทย กล่าวว่า “HONOR พร้อมกลับมาสร้างสีสันและสู้ศึกในตลาดสมาร์ตโฟนประเทศไทยอีกครั้ง กับการเปิดตัว HONOR 400 Series สมาร์ตโฟนสเปกระดับแฟลกชิปรุ่นใหม่ล่าสุด ที่มาครบทั้ง HONOR 400 Pro, HONOR 400 และ HONOR 400 Lite ซึ่งเป็น Number Series รุ่นแรกที่เปิดตัวในไทยภายใต้กลยุทธ์ระดับโลก ‘HONOR ALPHA PLAN’ ที่เราได้ประกาศในงาน Mobile World Congress ปีนี้
เราเชื่อว่า AI คือหัวใจของสมาร์ตโฟนยุคถัดไป และใน HONOR 400 Series เราได้ใส่ขุมพลังกล้องอัจฉริยะไว้เต็มรูปแบบ ด้วยระบบ AI Imaging ขั้นสูง ที่สามารถวิเคราะห์ ปรับแต่ง และสร้างภาพถ่ายระดับมืออาชีพได้อย่างง่ายดายเพียงชัตเตอร์เดียว ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพบุคคลหรือวิดีโอ ก็สามารถสะท้อนอารมณ์และตัวตนของผู้ใช้ได้อย่างมีเอกลักษณ์ HONOR 400 Series ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งานยุคใหม่ที่ต้องการทั้งประสิทธิภาพ ความสร้างสรรค์ และการเข้าถึงเทคโนโลยีเรือธงในราคาที่จับต้องได้ พร้อมฟีเจอร์ AI ตัดต่อภาพและวิดีโอที่สนุกและใช้งานง่าย เปิดโอกาสให้ทุกคนได้ถ่ายทอดตัวตนอย่างอิสระ ผ่านสมาร์ตโฟนที่ฉลาดและสวยงามในทุกมิติ”
HONOR 400 Series นำทัพด้วย HONOR 400 Pro สมาร์ตโฟนเรือธงเริ่มต้นดีไซน์พรีเมียมที่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพและเทคโนโลยีล้ำสมัย เน้นชูไฮไลต์ ดังนี้
● เปลี่ยนทุกภาพให้มีพลังเรื่องราว ด้วยกล้อง Advance AI ความละเอียด 200MP
HONOR 400 Series มาพร้อมระบบกล้องสุดล้ำ 200MP
Ultra-clear Advance AI ที่ยกระดับการถ่ายภาพด้วยกล้องหลัก AI
ความละเอียดสูงถึง 200MP ขนาดเซ็นเซอร์ใหญ่ 1/1.4 นิ้ว รูรับแสง f/1.9 พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบคู่
OIS + EIS เพื่อภาพที่คมชัดแม้ในสภาพแสงน้อย นอกจากนี้ยังเสริมประสิทธิภาพการถ่ายภาพระยะไกลด้วยกล้อง
Telephoto ความละเอียด 50MP ใช้เซ็นเซอร์
Sony IMX856 รองรับการซูมแบบออปติคัล 3x พร้อมระบบกันสั่น OIS (เฉพาะรุ่น HONOR 400
Pro) ช่วยให้เก็บภาพระยะไกลได้อย่างคมชัดไม่สั่นไหว
ครอบคลุมทุกมุมมองด้วยกล้อง Ultra-Wide
& Macro ความละเอียด 12MP มุมกว้าง 112° สำหรับภาพทิวทัศน์และมาโครแบบใกล้ชิด และยังตอบโจทย์สายเซลฟี่ด้วยกล้องหน้า
Portrait Selfie ความละเอียด 50MP รูรับแสง
f/2.0 มาพร้อมอัลกอริธึมพอร์ตเทรตอัจฉริยะของ HONOR ที่ช่วยให้ใบหน้าคมชัด สมจริง และสวยเป็นธรรมชาติในทุกช็อต
● ยกระดับ Creative Advance AI Editing สู่มิติใหม่ของความคิดสร้างสรรค์ ที่ให้มามากกว่า 40 แบบ
HONOR 400 Series มาพร้อม Creative Advance AI
Editing ที่เปิดขอบเขตใหม่ของความคิดสร้างสรรค์ในชีวิตประจำวัน ด้วยการนำโมเดลสร้างวิดีโอล่าสุดอย่าง
Google Veo 2 บน Vertex AI มาใช้เป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรมบนสมาร์ตโฟน
ผู้ใช้สามารถแปลงภาพนิ่งให้กลายเป็นวิดีโอที่มีชีวิต สร้างเรื่องราวที่เคลื่อนไหวได้อย่างน่าทึ่ง
โดยไฮไลต์อย่าง Advance AI Image to Video มอบประสบการณ์การสร้างวิดีโอที่สมจริง
ด้วยการตีความคำสั่งของผู้ใช้ได้อย่างแม่นยำ และถ่ายทอดความคิดสร้างสรรค์ผ่านวิดีโอได้อย่างทรงพลัง
ฟีเจอร์นี้รองรับวิดีโอในรูปแบบ MP4 และ HD Moving
Photo ในอัตราส่วน 16:9 หรือ 9:16 โดยใช้เวลาเพียงประมาณ 1 นาทีต่อวิดีโอ 5 วินาที ช่วยเปิดมุมมองใหม่ของการแสดงออกทางศิลปะผ่านภาพถ่าย
● มอบการใช้งานทรงพลังด้วยแบตเตอรี่ซิลิคอนคาร์บอนความจุ 6000mAh
HONOR 400 Pro มาพร้อมแบตเตอรี่ ซิลิคอนคาร์บอนความจุสูง 6000mAh
รองรับทั้ง 100W HONOR Wired SuperCharge และ 50W
HONOR Wireless SuperCharge เพื่อประสบการณ์การชาร์จที่รวดเร็วและสะดวกยิ่งขึ้น
ไม่ว่าจะชาร์จแบบมีสายหรือไร้สาย เมื่อชาร์จเต็ม 100% ผู้ใช้สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่องตลอดวัน
โดยรับชมวิดีโอออนไลน์ได้นานสูงสุด 17 ชั่วโมง, สนทนาทางโทรศัพท์ได้ยาวนานถึง 37 ชั่วโมง และรับชมวิดีโอแบบออฟไลน์ได้นานถึง
29 ชั่วโมง