‘เกิด โต ตาย’ วัฎจักรพรรค (เฉพาะกิจ) สืบทอดอำนาจ

คอลัมน์ จับกระแสการเมือง..โดย สมศักดิ์ ไม้พรต..เว็บไซต์ โลกธุรกิจ..เผยแพร่ 12 มิ.ย.68

ความแตกร้าวภายในพรรค 2 ลุงอย่างพลังประชารัฐและรวมไทยสร้างชาตินับวันจะยิ่งมีความชัดเจน ชัดเจนจนมองจากดาวอังคารก็รู้ว่าทั้งสองพรรคกำลัง "ใกล้ตาย" ทางการเมือง

รวมไทยสร้างชาติ ของ"ลุงตู่"  ที่ดูเหมือนจะดีกว่า พลังประชารัฐ ของ"ลุงป้อม"

ถึงตอนนี้ไม่มีใครมีอนาคตดีกว่าใคร ภายในแตกแยก เละเทะ ไม่ต่างกัน

รวมไทยสร้างชาติดูจะหนักกว่าด้วยซ้ำ เมื่อ "สุชาติ ชมกลิ่น" ทิ้งบอมบ์ใส่บ้านตัวเองจนไม่เหลือชิ้นดี พร้อมร้องขอให้ขับส.ส.กลุ่มก๊วนตัวเอง 20 คน ออกจากพรรค เพื่อจะได้ไปสังกัดพรรคการเมืองอื่น โมเดลเดียวกับกลุ่ม "ผู้กองธรรมนัส" ที่สร้างความปั่นป่วนในพลังประชารัฐก่อนขอให้พรรคขับพวกตัวเองออกเพื่อไปสังกัด "กล้าธรรม"

จากส.ส.ที่มีอยู่ 36 ถ้าออกไป 20-21 คน จะทำให้รวมไทยสร้างชาติเหลือส.ส.เพียง 15-16 คน

ถ้ามีเท่านี้กระทบต่อสถานะความเป็นพรรคร่วมรัฐบาลแน่นอน

หากได้อยู่ต่อก็ต้องลดโควตาเก้าอี้รัฐมนตรีลง แถมเหลือกระทรวงไม่สำคัญ

        หากไม่ได้อยู่ต่อก็ไม่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐบาลมากนักเพราะมีงแค่ 15-16 เสียง

จากสิ่งที่เกิดขึ้นมองมุมไหนก็ "พัง" ไปต่อยาก

ข้ามมาที่พรรคพลังประชารัฐที่เคยยิ่งใหญ่มีเสียงมากเป็นอันดับสองในการเลือกตั้ง ปี 62 ได้ส.ส.มากถึง 119 คน ส่ง "ลุงตู่" นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีได้ต่อเนื่องอย่างไร้รอยต่อ

มาวันนี้เหลือส.ส.ที่อยู่กับ "ลุงป้อม" แค่  20 คน หลัง "ผู้กองธรรมนัส" นำส.ส.ออกไป 20 คน

สภาพไม่ต่างจากรวมไทยสร้างชาติ นี่ขนาด "ลุงป้อม" ยังอยู่กับพรรค ไม่ปลีกวิเวกออกจากการเมืองไปเหมือน "ลุงตู่"

ภาพการเมืองวันนี้ดูเหมือนว่าบรรดาส.ส.และพรรคการเมืองกำลังแต่งตัวรอการเลือกตั้งครั้งต่อไป ซึ่งเมื่อมองดูจากปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วน่าจะเกิดขึ้นไวกว่ากำหนดเดิมในปี 2570 ค่อนข้างแน่

ผู้สังเกตุการณ์การเมืองหลายคนมองเห็นภาพตรงกันว่าน่าจะเป็นช่วงต้นปีหน้า 2569 

จะเร็วหรือช้ากว่านั้นขึ้นอยู่กับฝีมือการประสานประโยชน์ของพรรคแกนนำรัฐบาลอย่างเพื่อไทย

อย่างไรก็ตามใช่ว่าประสานประโยชน์เก่งแล้วจะได้อยู่ต่อจนครบวาระ เพราะยังมีระเบิดเวลาอีกหลายลูกรอวันที่จะบึ้มเมื่อไหร่ก็ได้ จากคดีความต่างๆ ทั้งที่มีต่อคนในรัฐบาลหรือรัฐบาลโดยตรง และที่มีต่อผู้นำจิตวิญญาณของรัฐบาลเพื่อไทย

มองหามุมบวกแทบไม่เห็น

ส่วนพรรค "2 ลุง" ก็คงถึงขั้นดับสูญไปตามกาลเวลา

ดับสูญไปตามสภาพของพรรคการเมืองเฉพาะกิจ

ถ้ายังประคองลมหายใจอยู่ได้และลงสนามเลือกตั้งครั้งหนาได้ก็จะกลายสภาพเป็นพรรคต่ำ 10 ต่ำ 5  ไม่มีความหมายอะไรในทางการเมืองอีกต่อไป