มติแพทยสภาฟันหมอรักษา"ทักษิณ" - ศาลไม่อนุญาตออกนอกประเทศ
วันที่ 8 พฤษภาคม 2568 ศ.ดร.นายแพทย์ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา คนที่หนึ่ง แถลงผลการประชุมคณะกรรมการแพทยสภา ครั้งที่ 5/2568 ประจำเดือนพฤษภาคม มีวาระสำคัญ คือ การพิจารณาคดีจริยธรรมของแพทย์ที่เป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ในกรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลตำรวจ ผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม
ที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภาได้มีมติลงโทษแพทย์ 3 ท่าน โดยเป็นการว่ากล่าวตักเตือน 1 ท่าน ในกรณีประกอบวิชาชีพเวชกรรมไม่ได้มาตรฐาน และพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม 2 ท่าน ในกรณีให้ข้อมูลหรือเอกสารทางการแพทย์อันไม่ตรงกับความเป็นจริง
ทั้งนี้ แพทยสภามีหน้าที่ต้องเสนอมติต่อสภานายกพิเศษ (รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข) เพื่อขอความเห็นชอบก่อนจะดำเนินการตามมติ ซึ่งเป็นขั้นตอนตามพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 ต่อไป
ที่มา : แพทยสภา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามติดังกล่าวเป็นกรณีการเข้ารักษาอาการป่วยระหว่างการรับโทษตามคำสั่างศาลของนางทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่โรงพยาบาลตำรวจ
วันเดียวกันศาลอาญา มีคำสั่งยกคำร้องที่นายทักษิณ ผู้ต้องหาคดีตามกฎหมายอาญามาตรา 112 ยื่นขออนุญาตเดินทางออกนอกประเทศ โดยได้รับคำเชิญจากเจ้าผู้ครองนครรัฐการ์ตา โดยศาลชี้ว่าเป็นนัดหมายส่วนตัว ส่วนที่ระบุว่าอาจมีโอกาสได้เจอประธานาธิดีสหรัฐฯ โดนัลล์ ทรัมป์ นั้น เป็นเพียงการคาดการณ์ไม่ได้มีนัดหมายแต่อย่างใด
ผู้สื่อ่าวรายงานว่าผู้สังเกตุการณ์ทางการเมืองหลายคนนำทั้งเรื่องไปผูกโยงกับกรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำสั่งเปิดการไต่สวนกรณีการเข้าพักรักษาตัวที่ธรงพยายาลตำรวจของนายทักษิณ ในวันที่ 13 มิถุนายน 2568 เวลา 9.30 น. โดยมีคำสั่งให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายทักษิณ ชินวัตร แจ้งต่อศาลว่ามีข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร และให้ส่งสำเนาคำร้องให้ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร อธิบดีกรมราชทัณฑ์และนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจให้ชี้แจงข้อเท็จจริงต่อศาลด้วย ซึ่งมติของแพทยสภาที่ออกมาให้ลงโทษแพทย์ที่เกี่ยวข้องอาจเป็นศาลตั้งต้นในคดีนี้ที่อาจมีผลลบต่อนายทักษิณ