‘นิด้าโพล’ ชี้คนไทยส่วนใหญ่กำลังเผชิญวิกฤติเศรษฐกิจรุนแรง

ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ เผยผลสำรวจล่าสุดเรื่อง “วิกฤติเศรษฐกิจกับการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 และเฟส 4” สะท้อนเสียงของประชาชนทั่วประเทศอย่างชัดเจนว่า เศรษฐกิจไทยในปัจจุบันกำลังอยู่ในภาวะที่ “ไม่อาจรอได้อีกต่อไป”

จากการสำรวจระหว่างวันที่ 7-8 พฤษภาคม 2568 พบว่า มากถึง 83.66% ของผู้ตอบแบบสอบถามมองว่า ประเทศกำลังเผชิญวิกฤติเศรษฐกิจที่จำเป็นต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน โดยมีถึง 47.17% ระบุว่า “ต้องการความช่วยเหลือจากรัฐบาลอย่างเร่งด่วน” ในขณะที่เพียง 7.56% ระบุว่าไม่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ

ความเห็นเกี่ยวกับนโยบายเรือธงของรัฐบาลอย่าง การแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ที่เริ่มมาตั้งแต่เฟสแรก พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ยังสนับสนุนให้ดำเนินนโยบายต่อไปทั้งในเฟส 3 และเฟส 4

เฟส 3 (กลุ่มอายุ 16–20 ปี): 57.25% เห็นควรดำเนินการตามแผนในปีนี้ ขณะที่ 33.90% ต้องการให้หยุด

เฟส 4 (กลุ่มอายุ 21–59 ปี): 62.98% สนับสนุนให้เดินหน้าต่อในปีนี้ ขณะที่ 26.95% เห็นว่าควรยุติ

แม้เสียงสนับสนุนจะยังมากกว่า แต่ก็มีสัญญาณชัดเจนจากประชาชนบางส่วนที่เริ่มตั้งคำถามกับนโยบายนี้ โดยเฉพาะในกลุ่มที่มองว่าควร “เลื่อน” หรือ “หยุด” ซึ่งรวมกันแล้วเกือบครึ่งหนึ่งในแต่ละเฟส

อีกหนึ่งคำถามสำคัญของการสำรวจนี้คือ หากนายกรัฐมนตรี “แพทองธาร ชินวัตร” ตัดสินใจ ยกเลิกนโยบายวอลเล็ต 10,000 บาท จะเกิดปฏิกิริยาใดในหมู่ประชาชน

ผลปรากฏว่า กว่า 54.12% ระบุว่า “ไม่โกรธเลย” ขณะที่มีเพียง 15.27% ที่ระบุว่า “โกรธมาก” และอีก 17.41% ที่ “ค่อนข้างโกรธ” บ่งชี้ว่า แม้นโยบายจะยังได้รับการสนับสนุน แต่หากจำเป็นต้องยกเลิก ก็อาจไม่ก่อให้เกิดแรงต้านทางการเมืองในระดับรุนแรง

การสำรวจครั้งนี้ดำเนินการกับกลุ่มตัวอย่าง 1,310 รายทั่วประเทศ ครอบคลุมทุกช่วงอายุ อาชีพ รายได้ และภูมิภาค โดยเน้นการสุ่มตัวอย่างอย่างเป็นระบบ (Multi-stage Sampling) และใช้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์เป็นหลัก พร้อมกำหนดค่าความคลาดเคลื่อนไม่เกิน 0.05 ที่ระดับความเชื่อมั่น 97.0%

บทสรุปจากข้อมูลสะท้อนว่า ประชาชนส่วนใหญ่กำลังประสบปัญหาเศรษฐกิจระดับรุนแรง และยังคงมองว่านโยบายแจกเงินผ่านวอลเล็ต เป็นเครื่องมือสำคัญในการบรรเทาความเดือดร้อน แม้จะมีเสียงวิจารณ์เรื่องประสิทธิผลหรือความยั่งยืนก็ตาม

คำถามใหญ่ที่ยังคงอยู่ต่อไปคือ รัฐบาลจะเดินหมากต่อไปในรูปแบบใด และความเชื่อมั่นที่ประชาชนฝากไว้ใน “เงิน 10,000 บาท” จะถูกแปรรูปเป็นพลังฟื้นเศรษฐกิจได้จริงหรือไม่?

        อ่านรายละเอียดผลงานสำรวจคลิก >> https://nidapoll.nida.ac.th/survey_detail?survey_id=754