“ภัชริ” ชี้งบปี 69 ขาดดุล 8.6 แสนล้าน สะท้อนวิกฤตการคลัง-เศรษฐกิจไทย เข้าสู่ภาวะเปราะบางเรื้อรัง

        นายภัชริ นิจสิริภัช เหรัญญิกพรรคไทยสร้างไทย เปิดเผยถึงสถานการณ์ทางการคลังของประเทศ โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากการจัดงบประมาณรายจ่ายประจำปี โดยชี้ว่างบปี 2569 ซึ่งกำลังเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา เป็นเครื่องสะท้อนชัดถึงภาวะวิกฤตทั้งในเชิงโครงสร้างเศรษฐกิจ และการจัดการงบประมาณของรัฐบาล

โดยในปีงบประมาณ 2569 รัฐบาลตั้งวงเงินงบประมาณไว้ที่ 3.78 ล้านล้านบาท เป็นงบขาดดุลสูงถึง 860,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2568 ถึง 27,900 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นการกู้เงินเพื่อใช้จ่ายแบบไร้ทิศทาง ในขณะที่งบลงทุนกลับลดลงเหลือประมาณ 860,000 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนถึง 72,362 ล้านบาท หรือคิดเป็นกว่า 7.76%

“งบประมาณขาดดุลระดับนี้ เป็นสัญญาณชัดเจนว่า ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ภาวะทางการคลังที่เปราะบางอย่างยิ่ง รัฐบาลเลือกใช้การกู้เงินมากกว่าการปฏิรูประบบงบประมาณให้มีประสิทธิภาพ และตอบโจทย์ประชาชน” ภัชริ ระบุ

นอกจากนี้ยังมีข้อมูลจากหน่วยงานต่อต้านการทุจริตที่น่ากังวลว่า งบลงทุนของภาครัฐกว่า 30% ถูกจ่ายใต้โต๊ะ คิดเป็นมูลค่ากว่า 2.5–3 แสนล้านบาท ต่อปีที่รั่วไหลจากระบบ ซึ่งเป็นเม็ดเงินที่ควรนำไปสร้างโอกาสและคุณภาพชีวิตให้กับประชาชน

พรรคไทยสร้างไทยขอเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายปี 2569 โดยเฉพาะงบในส่วนที่ไม่จำเป็นเร่งด่วน เช่น งบก่อสร้างอาคาร ถนน งบศึกษาดูงาน และงบจัดซื้อจัดจ้างต่างๆ ที่เปิดช่องให้เกิดการทุจริต

“การกู้เงินจำนวนมากโดยไม่มีแผนจัดการที่โปร่งใสและยั่งยืน เป็นการผลักภาระให้กับลูกหลานไทยในอนาคต หากไม่หยุดทุจริต ประเทศไทยจะไม่มีวันหลุดพ้นจากความยากจนเรื้อรัง” เหรัญญิก พรรคไทยสร้างไทยกล่าว

นายภัชริ ย้ำว่าถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลต้องจริงจังกับการปิดช่องโหว่ทุจริตในระบบราชการและการเมือง พร้อมเชิญชวนประชาชนร่วมกันสร้างการเมืองสุจริต เพื่อหยุดการก่อหนี้แบบไร้เป้าหมาย และคืนอนาคตให้กับคนรุ่นต่อไปอย่างยั่งยืน

------------------------------

ที่มา : พรรคไทยสร้างไทย