Header Ads

ฮั้ว ส.ว. สะเทือนรัฐบาล ปชช. 66% หวั่นกระทบมั่นคงทางการเมือง


“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศที่ติดตามข่าวการเมืองต่อกรณี “ฮั้ว ส.ว.” โดยสำรวจกลุ่มตัวอย่าง 1,211 คน ระหว่างวันที่ 20–23 พฤษภาคม 2568 พบว่า ร้อยละ 56.73 ไม่เชื่อมั่นในระบบการเมืองไทยปัจจุบัน ขณะที่ประชาชนส่วนใหญ่มองว่าสาเหตุสำคัญของกรณีนี้มาจาก ความไม่โปร่งใสในกระบวนการเลือกตั้ง ส.ว. (60.36%) และพฤติกรรมแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตนของผู้เกี่ยวข้อง (59.70%)

กรณี “ฮั้ว ส.ว.” ถูกมองว่า อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐบาล ในระยะยาว โดยประชาชนกว่า 66.15% เชื่อว่าจะส่งผลกระทบแน่นอน ขณะที่แนวทางการแก้ไขที่ประชาชนเสนออย่างชัดเจนคือ เร่งปฏิรูประบบเลือกตั้ง ส.ว. (61.81%) พร้อมทั้งเรียกร้องให้มีกระบวนการตรวจสอบที่เข้มข้นและโปร่งใสมากยิ่งขึ้น

ผลกระทบจากกรณีนี้ไม่เพียงกระทบเชิงโครงสร้าง หากแต่ยัง ทำให้สังคมเกิดภาวะไม่ไว้วางใจ และขัดแย้งทางความคิด (57.12%) รวมถึงกระทบต่อความมั่นใจของประชาชนต่อระบบประชาธิปไตยในภาพรวม

นางสาวพรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล ระบุว่า กรณีนี้ไม่ใช่เพียงแค่ข่าวการเมืองทั่วไป แต่เป็นสัญญาณเตือนของความไม่ไว้วางใจในโครงสร้างทางการเมืองอย่างลึกซึ้ง ซึ่งหากรัฐบาลยังเพิกเฉย อาจลุกลามกระทบต่อเสถียรภาพในระยะยาว

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สมศักดิ์ เจริญพูล จากมหาวิทยาลัยสวนดุสิต เสริมว่า ปัญหาเรื่องการได้มาของ ส.ว. ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่สะสมมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะหลังรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่เปิดช่องให้ฝ่ายการเมืองมีบทบาทแทรกแซง ส่งผลให้ ส.ว. กลายเป็น “กลไกในระบบที่ประชาชนไม่เชื่อมั่น” ซึ่งหากจะปฏิรูปต้องไม่ใช่แค่เปลี่ยนบุคคล แต่ต้องเปลี่ยนโครงสร้างที่เอื้อให้เกิดความไม่เป็นธรรม

Theme images by fpm. Powered by Blogger.