Header Ads

เปิดตัว Medical AI Data Platform คลังภาพทางการแพทย์ 2.2 ล้านภาพ ใช้ AI ยกระดับสาธารณสุขไทย


“ศุภมาส” เปิดตัวแพลตฟอร์มกลาง AI ทางการแพทย์ “Medical AI Data Platform” หนุนโรงพยาบาลทั่วประเทศ แชร์-เชื่อม-ใช้ ข้อมูลภาพกว่า 2.2 ล้านภาพ ครอบคลุม 8 กลุ่มโรคสำคัญ

เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2568 นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานเปิดงานสัมมนาวิชาการ Medical AI Consortium: ร่วมแชร์ เชื่อม ใช้ “ข้อมูล” ขับเคลื่อน AI เพื่อการแพทย์ไทย พร้อมเปิดตัว “Medical AI Data Platform” แพลตฟอร์มข้อมูลกลางทางการแพทย์ที่ใช้ AI เป็นเครื่องมือสำคัญในการคัดกรองและวินิจฉัยโรคได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว โดยภายในงานยังมีการลงนามความร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรด้านการแพทย์ และการแลกเปลี่ยนแนวคิดจากผู้เชี่ยวชาญหลากหลายสถาบัน

แพลตฟอร์มนี้รวบรวม ภาพทางการแพทย์กว่า 2.2 ล้านภาพ จากโรคสำคัญ 8 กลุ่ม อาทิ โรคทรวงอก, มะเร็งเต้านม, โรคตา, ช่องท้อง, ผิวหนัง, หลอดเลือดสมอง และโรคกระดูกพรุน เพื่อสนับสนุนการพัฒนาโมเดล AI ทางการแพทย์แบบครบวงจร ตั้งแต่การจัดเก็บและกำกับข้อมูล การฝึกสอนโมเดล ไปจนถึงการนำไปใช้งานจริงในโรงพยาบาล

นางสาวศุภมาส ระบุว่า กระทรวงให้ความสำคัญกับการพัฒนา "AI for Medical Ecosystem" โดยเฉพาะการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและการเปิดพื้นที่ให้นักวิจัย แพทย์ และสถาบันการศึกษาร่วมกันสร้างโมเดล AI ที่ใช้ได้จริง พร้อมเชิญชวนโรงพยาบาลทั่วประเทศร่วมแบ่งปันข้อมูล และระบุโจทย์ทางการแพทย์ที่ต้องการให้ AI เข้ามาช่วยแก้ไข

ทางด้าน ศ.ดร.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการ สวทช. ระบุว่า แพลตฟอร์มนี้พัฒนาโดย เนคเทค สวทช. ครอบคลุม 3 ส่วนหลัก ได้แก่

การจัดการข้อมูล (Data Management) – ใช้ซอฟต์แวร์ RadiiView ช่วยระบุลักษณะบนภาพทางการแพทย์

การพัฒนาโมเดล AI (AI Modeling) – ผ่านแพลตฟอร์ม NomadML ที่ใช้งานง่ายและเชื่อมต่อกับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ LANTA

การใช้งานจริง (AI Service Deployment) – เพื่อนำโมเดลที่พัฒนาแล้วไปใช้ในสถานพยาบาลผ่านระบบคลาวด์ภาครัฐ (GDCC)

ปัจจุบัน Medical AI Consortium มีพันธมิตรเข้าร่วมแล้ว 6 สถาบัน ได้แก่ กรมการแพทย์ คณะแพทย์จากมหาวิทยาลัยมหิดล จุฬาฯ สงขลานครินทร์ เชียงใหม่ และวชิรพยาบาล และยังเปิดรับความร่วมมือเพิ่มเติมจากหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ เอกชน และสถาบันการศึกษา

แพลตฟอร์มนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการวางรากฐาน AI การแพทย์ของประเทศไทย ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดภาระงานบุคลากร และขยายโอกาสเข้าถึงบริการสุขภาพที่เท่าเทียมและมีคุณภาพ

-----------------

ที่มา : กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม

Theme images by fpm. Powered by Blogger.