ทำไม? ต้องปฏิรูประบบงบประมาณ
คอลัมน์ จับกระแสการเมือง..เขียนโดย นายนิรนาม..เว็บไซต์โลกธุรกิจ..เผยแพร่ 19 กรกฎาคม 2568
การจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีของประเทศที่มีจำนวนมหาศาลถึงกว่า 3 ล้านล้านบาทในแต่ละปี ถูกตั้งคำถามมากขึ้นเรื่อยๆ ถึงความจำเป็น ความคุ้มค่า ความโปร่งใส ในการใช้จ่ายงบประมาณ
ที่ผ่านมามีการเรียกร้องกันมาอย่างยาวนานต่อเนื่องให้เปิดเผยการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณที่พิจารณากันในสภา
แต่ดูเหมือนว่าเสียงเรียกร้องจะไม่ได้รับการตอบรับจากผู้มีอำนาจ ที่ยังคงต้องการให้การพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีเป็นความลับที่รู้กันเฉพาะหน่วยงานรัฐกับส.ส.และส.ว.ในสภาเท่านั้น คนนอกไม่จำเป็นต้องรู้
เรื่องง่ายๆ อย่างการถ่ายทอดสดการประชุมคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี ที่เรียกร้องกันมานานยังไม่สามารถทำได้
อ้างโน้น..ติดนี่..สารพัดข้ออ้างที่จะยกมา
อย่างไรก็ตามปัญหาเรื่องงบประมาณไทยดูเหมือนว่าไม่ได้อยู่แค่การจัดสรรงบประมาณให้หน่วยงานต่างๆ ในแต่ละปีเท่านั้น แต่ยังมีปัญหาเชิงโครงสร้างมากมายที่ทับซ้อนกันอยู่จนส่งผลให้งบประมาณปีละกว่า 3 ล้านล้านบาทถูกใช้หมดไปโดยที่ประชาชนไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงหรือการพัฒนาประเทศจากการใช้จ่ายงบประมาณอย่างที่ควรจะเป็น
“งบประมาณไม่ใช่แค่ตัวเลข แต่คือการสะท้อนคุณค่าของสังคม” คำพูดนี้ยังคงเป็นจริงทุกยุคสมัย
ประเทศไทยกำลังเผชิญกับปัญหาการคลังที่ซับซ้อนและลึกซึ้งกว่าที่ตัวเลขหนี้สาธารณะหรือรายจ่ายประจำปีจะแสดงออกมาให้เห็น หากเปรียบระบบงบประมาณไทยเป็นเรือใหญ่ที่บรรทุกคนทั้งประเทศอยู่ เรือลำนี้กำลังลอยลำกลางคลื่นเศรษฐกิจโลกด้วยพวงมาลัยที่ขาดเขี้ยวเล็บ เครื่องยนต์ที่ซ่อมแซมแบบเฉพาะหน้า และเข็มทิศที่เอียงจากทิศทางยุทธศาสตร์
คำถามที่ต้องตอบให้ได้คือ: เราจะยังฝืนเดินหน้าแบบนี้อีกนานแค่ไหน?
1. งบประมาณแบบ “ล่องหน” มองไม่เห็นทั้งภาพรวมและภาพจริง
ระบบงบประมาณไทยปัจจุบันแบ่งแยกกระจัดกระจาย เรามักพูดถึงเฉพาะงบประมาณรายจ่ายประจำปีที่เข้าสภาโดยไม่เคยมองเห็น “อีกครึ่งหนึ่ง” ของภาพ งบประมาณนอกระบบ, หนี้แฝง, ภาระการคลังจากนโยบายรัฐบาล และหนี้นอกนิยามกฎหมายหนี้สาธารณะ
รายงานการปฏิรูปของ ผศ.ปกป้อง จันวิทย์ และคณะฯ ได้ยืนยันข้อเท็จจริงอันน่าตกใจว่า รายจ่ายนอกงบประมาณมีสัดส่วนมากกว่างบรายจ่ายแผ่นดินถึงกว่า 60% แต่รัฐสภาแทบไม่มีอำนาจตรวจสอบอย่างแท้จริง
เมื่อข้อมูลคลัง “ล่องหน” ก็ไม่อาจหวังให้รัฐวางแผนพัฒนาประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือโปร่งใส เพราะสิ่งที่ไม่รู้ = สิ่งที่บริหารไม่ได้
2. ระบบราชการเป็นเจ้าของงบประมาณ รัฐบาลเป็นแค่ผู้มาเยือน
แม้รัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง แต่กลับมีอำนาจกำหนดยุทธศาสตร์งบประมาณเพียงน้อยนิด งบประมาณส่วนใหญ่ถูกขับเคลื่อนโดยระบบราชการในลักษณะ “งบฐานอดีต” ที่สืบทอดวิธีเดิม ๆ ต่อเนื่องกันมาหลายทศวรรษ
นโยบายใหม่ของรัฐบาลจึงมักติดกับดักความเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากพื้นที่ทางการคลังจำกัดเหลือเพียง 20% เท่านั้น เช่นนี้แล้วจะปฏิรูปเศรษฐกิจ สาธารณสุข การศึกษา หรือสิ่งแวดล้อมได้อย่างไร ในเมื่อเราขยับทรัพยากรแทบไม่ได้เลย?
3. สภาไทย = ผู้สังเกตการณ์ ไม่ใช่ “สภางบประมาณ”
ปัจจุบัน ส.ส. ไม่มีโอกาสอภิปรายเชิงหลักการต่อแผนงบประมาณก่อนเริ่มร่างกฎหมายงบประมาณ รายละเอียดต่าง ๆ มักถูกจัดสรรและคัดกรองโดยฝ่ายบริหารเกือบทั้งหมด การอภิปรายในสภากลายเป็นเพียงการเล็มรายละเอียด ไม่ได้ตั้งคำถามเชิงยุทธศาสตร์หรือมิติใหญ่
ข้อเสนอใหม่เรื่อง “pre-budget statement” และการจัดตั้ง สำนักงบประมาณของรัฐสภา (PBO) จึงเป็นก้าวสำคัญที่จะทำให้สภาทำหน้าที่สมกับการเป็นตัวแทนประชาชน ไม่ใช่เพียงแค่ผู้รับทราบ
4. งบประมาณโปร่งใส = การเมืองประชาชนที่แท้จริง
ประชาชน นักวิจัย นักข่าว หรือแม้แต่ภาคธุรกิจ หากไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลงบประมาณที่ “อ่านได้ ใช้ได้ และวิเคราะห์ได้” พวกเขาก็ย่อมไม่มีทางตรวจสอบรัฐบาลได้อย่างมีพลัง
รายงานนี้เสนอให้มีการเปิดเผยข้อมูลงบประมาณในรูปแบบที่ “machine readable” และครอบคลุมทุกระดับ ตั้งแต่ภาพรวมถึงระดับโครงการ ช่วยเปิดพื้นที่ให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในนโยบายการเงินการคลังอย่างแท้จริง
5. งบประมาณที่มีประสิทธิภาพ ไม่ใช่งบประมาณที่หมดไปทุกปี
เป้าหมายการใช้จ่ายภาครัฐต้องไม่ใช่แค่การ “ใช้งบให้หมด” แต่คือการ “ใช้งบให้คุ้ม” ร่างกฎหมายใหม่จึงกำหนดให้ตัวชี้วัดผลสัมฤทธิ์ถูกเชื่อมโยงกับการจัดสรรงบปีต่อไป เพื่อให้กลไกขับเคลื่อนเกิดจากผลลัพธ์ ไม่ใช่เพียงแค่ขั้นตอนเอกสาร
จุดตั้งต้น ไม่ใช่จุดสิ้นสุด
รายงานปฏิรูปนี้อาจยังไม่ใช่คำตอบสมบูรณ์ของการปฏิรูปการคลังไทย แต่มันคือจุดตั้งต้นที่สำคัญ เป็นความพยายามนำเสนอ “งบประมาณฉบับใหม่” ให้สมกับความเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยที่ไทยกำลังเผชิญ
งบประมาณเป็นเครื่องมือ ไม่ใช่ปลายทาง การปฏิรูประบบงบประมาณจึงไม่ใช่แค่เรื่องเทคนิค แต่คือเรื่องของ “พลังอำนาจ” ว่าใครกำหนดอนาคตของประเทศนี้ได้บ้าง
ถ้าเรายังเดินเรือลำนี้ด้วยพวงมาลัยอันเดิม ท่ามกลางพายุเศรษฐกิจโลก เราคงรู้คำตอบดีว่าจะถึงฝั่งหรือไม่
ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ถ้าคุณไม่พอใจระบบการจัดทำงบประมาณและการใช้จ่ายงบประมาณอย่างที่เห็นและเป็นอยู่ในปัจจุบัน จงร่วมเป็นอีกหนึ่งเสียงที่ทรงพลังผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่ "สิ่งที่ดีกว่า"