นายกฯถกแกนนำรัฐบาล เห็นพ้องเลื่อนกฎหมายคาสิโนไปสมัยประชุมหน้า
หลังกระแสต่อต้านร่างพ.ร.บ.สถาบันเมิงครบวงจร หรือ เอ็นเตอร์เทนเม้นต์คอมเพล็กซ์ ที่มีกำหนดจะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรวาระแรกในวันที่ 9 มษายน 2568 ล่าสุด นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่านางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้หารือในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 8 เมษายน 2568 ว่าจะขอเลื่อนการพิจารณาร่างกฎหมายออกไปเพราะเห็นว่ามีเรื่องเร่งด่วนกว่าต้องทำ ทั้งเรื่องที่สหรัฐฯขึ้นภาษีสินค้าไทย เรื่องผลกระทบและการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว และขอให้พรรคร่วมรัฐบาลแต่ละพรรคไปพิจารณารายละเอียดร่างกฎหมายสถานบันเทิงครบวงจรอีกครั้งโดยอาจมีการปรับเปลี่ยนเพื่อให้เกิดความเหมาะสม
"การประชุมสภาวันที่ 9 เมษายน อาจหยิบเรื่องผลกระทบจากการขึ้นภาษีของสหรัฐฯมาพิจารณาก่อน ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาพอสมควร ส่วนร่างพ.ร.บ.สถานบันเทิงฯก็คงพิจารณาไม่ทันสมัยประชุมสภานี้ซึ่งจะปิดสมัยประชุมในวันที่ 10 เมษายน โดยนายกรัฐมนตรีขอให้รัฐมนตรีทุกคนใช้ช่วงเวลาปิดสมัยประชุมสภาช่วยกันอธิบายทำความเข้าใจกับประชาชนที่ยังมีความสับสนอยู่เพราะมีบางฝ่ายให้ข้อมูลแต่เรื่องคาสิโนอย่างเดียว ทั้งที่ความจริงเป็นเรื่องการพัฒนาสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ที่จะนำเม็ดเงินขนาดใหญ่เข้ามาพัฒนาประเทศ" นายจุลพันธ์ กล่าวพร้อมยืนยันว่า แค่เลื่อนการพจารณาในสภาไม่ใช่ยุติโครงการเพราะมีวาระบรรจุในสภาแล้วเมื่อเปิดประชุมสมัยหน้าก็หยิบมาพิจารณาได้ เชื่อว่าเมื่อถึงเวลานั้นประชาชน่าจะมีความเข้าใจมากขึ้ยน
ส่วนที่มีหลายฝ่ายเสนอให้ทำประชามตินั้น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังกล่าวว่า เรื่องนี้ต้องเข้าใจกระบวนการของกฎหมาย ซึ่งร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวผ่านการทประชาพิจารณ์ตามขั้นตอนมาแล้ว 4 ครั้ง และมีผู้สนับสนนถึง 80%
ด้านนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี หลังประชุมคณะรัฐมนตรีได้หารือร่วมกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล เห็นตรงกันว่ามีเรื่องเร่งด่วยอื่นที่้ต้องดำเนินการก่อนโดยเฉพาะเรื่องผลกระทบจากแผ่นดินไหว เรื่องการเยียวยา เรื่องที่สหรัฐฯประกาศขึ้นภาษีสินค้า ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญเพราะฉะนั้นเรื่องอื่นๆสามารถรอได้
"พรรคร่วมรัฐบาลเห็นตรงกันหมดแล้ว ยืนยันว่าไม่ถอนร่างพ.ร.บ.สถานบันเทิงฯออกจากสภาฯ แต่เลื่อนพิจารณาเพราะเห็นว่ามีญัตติด่วนอื่นๆควรพิจารณาก่อน ทุกอย่างจะดำเนินการตามขั้นตอนของสภาฯ และระหว่างนี้จะเปิดรับฟังความเห็นประชาชนอย่างต่อเนื่อง"