"มือ" ในสภา ไม่เท่า "ศรัทธรา" ประชาชน
การอภิปรายไม่มั่นใจ คือกลไกในการตรวจสอบถ่วงดุลรัฐบาล ถึงมือในสภาฝ่ายรัฐบาล จะชนะอย่างท่วมท้น โดยไม่ต้องอาศัยมือของ ส.ส.งูเห่า แต่ผลของการอภิปราย ไม่ได้ชนะกันที่มือที่ยกให้เป็นฝักถั่วแต่ชนะกันที่ “ศรัทธา” ของประชาชน ที่ประชาชนอยากเห็นการทำงานการเมืองเพื่อประชาชนอย่างซื่อสัตย์สุจริต อยากได้รัฐบาลที่มีความสามารถ และมีความตั้งใจในการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนอย่างจริงใจไม่ใช่เข้ามากอบโกย ผ่านโครงการต่างๆ ที่มีผลประโยชน์แอบแฝงให้กับตนเองและพรรคพวก ซึ่งเป็นการ“ทุจริตเชิงนโยบาย”
ส่วนส.ส. งูเห่า ที่ไม่ซื่อสัตย์ต่อประชาชนที่เลือกตนเข้ามา ทรยศต่อพรรคการเมืองที่สร้างให้ตัวเอง ได้มีวาสนาเข้ามาเป็น “ผู้ทรงเกียรติในสภา” แต่กลับทำตัวไร้จริยธรรม เพื่อแลกผลประโยชน์ของตนเอง ไม่ใช่ผลประโยชน์ของประชาชน ทำลายระบบประชาธิปไตย จะต้องถูกลงโทษโดยประชาชน และขบวนกระบวนการยุติธรรมฐานผิดจริยธรรมร้ายแรงต่อไป
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย แสดงความเห็นต่อผลการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล โดยระบุว่า คะแนนเสียงของฝ่ายรัฐบาลที่มากกว่าฝ่ายค้านไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจ เนื่องจากพรรคร่วมรัฐบาลได้ประกาศจุดยืนแต่แรกแล้วว่าจะสนับสนุนรัฐบาล แม้จะยังไม่ได้ฟังการอภิปราย และหลังอภิปราย จะมีข้อกล่าวหาหรือข้อกังขามากมายก็ตาม
แม้รัฐบาลจะมีเสียงข้างมากในสภา แต่สิ่งสำคัญกว่านั้นคือ "ศรัทธาของประชาชน" ซึ่งรัฐบาลต้องรักษาด้วยการทำงานอย่างสุจริตและจริงใจในการแก้ไขปัญหาของประชาชน มิใช่เพื่อผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้องเท่านั่น
ในส่วนของพรรคไทยสร้างไทยที่มี ส.ส. โหวตสวนมติของพรรคฝ่ายค้านนั้น คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุว่า ไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมาย เพราะพฤติกรรมของบุคคลเหล่านี้เริ่มปรากฏให้เห็นมาระยะหนึ่งแล้ว พรรคได้พยายามตักเตือนและให้สติ แต่สุดท้ายกลับเลือกเดินในเส้นทางที่ขัดต่ออุดมการณ์และข้อบังคับของพรรค ขัดต่อจริยธรรมร้ายแรง และคำมั่นที่ให้ต่อประชาชน ที่สำคัญยังผิดต่อรัฐธรรมนูญ
"เมื่อวันนี้เห็นชัดแล้วว่าใครที่ไม่ซื่อสัตย์ต่อประชาชนและเห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าผลประโยชน์ของประชาชนพรรคไทยสร้างไทยจะดำเนินการทางกฎหมายเอาผิดทางจริยธรรมร้ายแรงให้ถึงที่สุด เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างกับนักการเมืองไทย และเยาวชนของชาติ พร้อมเรียกร้องให้ประชาชนจดจำรายชื่อของผู้ที่ทรยศต่อประชาชนและอุดมการณ์ของพรรค เพื่อให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจในอนาคต" คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว
หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย มองว่าการที่ ส.ส. บางคนโหวตสวนมติพรรคอาจเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นเงิน อำนาจ ตำแหน่ง หรือสิ่งจูงใจอื่นๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องได้รับการตรวจสอบ จากสังคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างคณะกรรมการปราบปรามทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.
โดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรคการเมืองที่ มีพฤติกรรมซื้อเสียงจากประชาชน และซื้อส.ส. ในสภาจากพรรคการเมืองอื่น ถือเป็นพรรคการเมืองที่มีพฤติกรรมทุจริตอยู่ในกมลสันดาน เพียงเพื่อผลประโยชน์ในการรักษาอำนาจและตำแหน่งทางการเมืองของตนเท่านั้น ซึ่งเป็นการทำลายระบบพรรคการเมือง และระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข สังคมไทยจะปล่อยให้นักการเมืองและพรรคการเมืองที่มีความคิดชั่วร้าย คิดถึงแต่ประโยชน์ส่วนตน ไม่ได้มีประชาชนอยู่ในหัวใจ ปกครองบ้านเมืองต่อไปได้อีกหรือ
คุณหญิงสุดารัตน์ ย้ำว่า อุดมการณ์ ของพรรคไทยสร้างไทยคือการ “สร้างการเมืองสุจริต” ไม่ทรยศหักหลังประชาชน ถึงแม้ว่าเราจะเหลือส.ส.ที่มีอุดมการณ์ และไม่ตระบัดสัตย์เพียงคนเดียว เราก็จะทำเดินหน้ามุ่งมั่นทำ“การเมืองสุจริต” ต่อไป อย่างไม่ย่อท้อ สถานการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นโอกาสสำคัญให้พรรคได้ คัดกรองบุคคลที่มีอุดมการณ์แท้จริง และยืนหยัดต่อหลักการทางการเมืองที่เน้นความซื่อสัตย์สุจริต พรรคจะเดินหน้าสร้างวัฒนธรรมทางการเมืองที่โปร่งใส โดยให้ความสำคัญกับการทำงานเพื่อประชาชนเป็นหลัก มากกว่าผลประโยชน์ส่วนตัวหรือกลุ่มการเมือง
คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุว่าการที่พรรคไทยสร้างไทยต้องเผชิญกับ ส.ส. ที่โหวตสวนมติพรรคแม้จะเป็นเรื่องที่น่าผิดหวัง แต่ก็เป็นบทพิสูจน์ว่าพรรคไทยสร้างไทย ยึดมั่นในอุดมการณ์ประชาธิปไตย และ มุ่งสร้างการเมืองสุจริต จึงขอเชิญชวนผู้ที่เห็นด้วยกับแนวทางของพรรคที่จะยืนหยัดต่อสู้กับการเมืองทุจริต ที่กำลังทำลายประเทศชาติอยู่ในขณะนี้ ได้มาร่วมอุดมการณ์กับพรรคไทยสร้างไทย พรรคจะใช้โอกาสนี้ในการปรับโครงสร้างและเสริมสร้างทีมงานที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจจริง เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนได้อย่างเต็มที่
---------------------
ที่มา : พรรคไทยสร้างไทย