Header Ads

7 กระทรวงจับมือรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ส่งเสริมแนวทางการท่องเที่ยวยั่งยืน


วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568 นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือ “การบูรณาการเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” ภายใต้แผนการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติ (NAP) โดยมี นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยรัฐมนตรีจากอีก 6 กระทรวงที่เกี่ยวข้อง ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งด้านสภาพแวดล้อมของแหล่งท่องเที่ยว โครงสร้างพื้นฐาน ตลอดจนพฤติกรรมของนักท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจึงให้ความสำคัญกับการปรับตัวของภาคการท่องเที่ยวให้สามารถเติบโตอย่างยั่งยืนและพร้อมรับมือกับความเสี่ยงจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง

นายสรวงศ์ เทียนทอง กล่าวว่า ภาคการท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในหกสาขาหลักของแผนการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติ ซึ่งจำเป็นต้องบูรณาการความร่วมมือกับกระทรวงอื่น ๆ เพื่อให้เกิดการดำเนินงานที่เป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวให้มีความยืดหยุ่นต่อสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง รวมถึงการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานให้รองรับภัยธรรมชาติที่อาจเกิดขึ้น

“ภาคการท่องเที่ยวไทยมีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ แต่ขณะเดียวกันก็ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ เช่น น้ำท่วม ภัยแล้ง และภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกิดบ่อยขึ้น ซึ่งอาจกระทบต่อแหล่งท่องเที่ยว โครงสร้างพื้นฐาน และพฤติกรรมของนักท่องเที่ยว การร่วมมือกับ 7 กระทรวงในครั้งนี้จึงเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถของประเทศไทยในการปรับตัว สร้างความมั่นคงของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และส่งเสริมแนวทางการท่องเที่ยวยั่งยืนที่รองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” นายสรวงศ์กล่าว

ภายใต้กรอบความร่วมมือครั้งนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้กำหนดแนวทางสำคัญเพื่อเสริมสร้างความสามารถของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ได้แก่ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและแหล่งท่องเที่ยว ให้สามารถรองรับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ เช่น การปรับปรุงระบบระบายน้ำของแหล่งท่องเที่ยว การพัฒนาที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวกให้ทนทานต่อภัยพิบัติ ส่งเสริมการท่องเที่ยวสีเขียว (Green Tourism) โดยเน้นมาตรฐานการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยคาร์บอน และสนับสนุนกิจกรรมท่องเที่ยวที่ส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ พัฒนาระบบเตือนภัยและแผนรับมือสำหรับแหล่งท่องเที่ยว เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้ประกอบการสามารถเตรียมพร้อมและลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้น

กระตุ้นการรับรู้และการมีส่วนร่วมของผู้ประกอบการท่องเที่ยว ในการพัฒนามาตรการปรับตัวให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ

นายสรวงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ความร่วมมือในครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการบูรณาการนโยบายด้านการท่องเที่ยวกับแนวทางการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมทำงานร่วมกับภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชนท้องถิ่นเพื่อให้ภาคการท่องเที่ยวสามารถเติบโตอย่างมั่นคง ยืดหยุ่น และสอดรับกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศไทย

“การท่องเที่ยวไทยจะต้องก้าวไปข้างหน้าโดยคำนึงถึงการปรับตัวต่อสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง เรามุ่งมั่นพัฒนาแนวทางที่ไม่เพียงแต่ช่วยลดผลกระทบจากภัยพิบัติ แต่ยังช่วยให้การท่องเที่ยวเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนท้องถิ่น

การลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือในครั้งนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการบูรณาการระหว่างกระทรวงต่าง ๆ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของประเทศไทยในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งจะช่วยให้ภาคการท่องเที่ยวของไทยเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนในอนาคต

-------------------------------

ที่มา : กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

Theme images by fpm. Powered by Blogger.