ของจริง..ต้องรอดูในสภา
#คอลัมน์..จับกระแสการเมือง #โดย..สมศกดิ์ ไม้พรต #เว็บไซต์ โลกธุรกิจ #เผยแพร่ 18 มกราคม 2568
ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สถานบันเทิงครบวงจร ฉบับที่... พ.ศ... แม้จะผ่านความเห็นชอบในหลักการจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อผลักดันเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาให้ทันก่อนปิดสมัยประชุมในวันที่ 10 เมษายน 2568 หรืออย่างช้าที่สุดก็ต้องเอาเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯให้ได้ในสมัยประชุมถัดไปดูรีบเร่ง..อย่างมีนัยสำคัญ
ในช่วงที่ผ่านมาผู้ที่พยายามผลักดันเรื่องนี้ออกมาให้ความเห็นทางบวกกับการมีสถานบันเมิงครบวงจรในหลายแง่มุม ทั้งเรื่องส่งเสริมการท่องเที่ยวที่จะดึงคนต่างชาติเข้ามาเที่ยวไทยได้มากขึ้น สร้างเม็ดเงินเข้าประเทศได้มากขึ้น ทำให้เกิดการจ้างงาน ฯลฯ
มีคำถามตามมาเหมือนกันว่าตัวเลขต่างๆ ที่ยกมานั้นเอามาจากไหน คำนวณมาจากอะไร
แม้รัฐบาลจะผลกดันเรื่องนี้อย่างเต็มที่ แต่ในแง่มุมของการคัดค้านก็ยังมีให้เห็นอยู่บ้าง เพียงแต่อาจจะส่งเสียงได้ไม่ดังเหมือนการคัดค้านกาสิโนในอดีตที่ผ่านมา
อาจเป็นเพราะสังคมไทยปลี่ยนไป ยอมรับเรื่องความมีอยู่จริงของการพนันมากขึ้น จึงเห็นคล้อยตามว่าเมื่อมีอยู่แล้ว แก้ไขไม่ได้ ก็ทำให้ถูกกฎหมายเพื่อเอาเม็ดเงินมาใช้พัฒนาประเทศซึ่งน่าจะดีกว่าปล่อยให้เม็ดเงินจำนวนมากเหล่านี้ไหลเข้ากระเป๋าเจ้าพ่อ เจ้าแม่ ผู้มีอิทธิพล
ถึงตอนนี้ความน่าจะเป็นโน้มเอียงไปในทางสนับสนุน จนทำให้โอกาสที่จะเกิดสถาบันเทินครบวงจรเป็นไปได้มาก
แต่ตราบใดที่ร่างกฎหมายยังไม่ผ่านสภาออกมาบังคับใช้
อะไร..ก็ ไม่แน่นอน
ความไม่แน่นอนของสถานบันเทิงครบวงจรดูเหมือนว่าจะขึ้นกับฝ่ายการเมืองเป็นหลัก แม้ที่ผ่านมาจะดูเหมือนว่าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคเอาด้วยกับนโยบายนี้
แต่การเมืองก็คือการเมือง
ยังต้องรอดูทิศทางลมโดยเฉพาะเสียงคัดค้านจากนี้ว่าจะดังขึ้นมากแค่ไหน ที่สำคัญคือเป็นการคัดค้านของกลุ่มใด
ถ้าเป็นกลุ่มที่เสียงดังในสังคม เป็นกลุ่มที่มีพลัง ตอนที่ร่างกฎหมายเข้าสู่การพิจารณาของสภา พรรคร่วมรัฐบาลอาจวงแตกเมื่อถึงตอนยกมือโหวตก็เป็นได้
ถ้าเสียงคัดค้านดังและมีพลังพอ พรรคร่วมรัฐบาลอาจเลือกให้ส.ส.ในสังกัดฟรีโหวต
แม้ในทางทฤษฎีการฟรีโหวตคือการให้ส.ส.ตัดสินใจเองว่าจะยกมือสนับสนุนหรือคัดค้าน ไม่ถือเป็นมติพรรค ไม่ใช่จุดยืนพรรค
แต่ในทางการเมืองรู้กันดีว่าการปล่อยฟรีโหวตนั้นเท่ากับการไม่เห็นด้วย เพียงแต่เอาหลักการประชาธิปไตยในพรรคมาเป็นข้ออ้างที่จะไม่เห็นด้วย และเพื่อรักษาภาพว่าไม่ได้เกิดความขัดแย้งในหมู่พรรคร่วมรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม สทร.ทักษิณ ชินวัตร ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ชัดเจนว่าเวลามีเรื่องสำคัญเข้า ครม. เข้าสภา พรรคร่วมรัฐบาลต้องแสดงให้เห็นถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน หรือที่เรียกว่า "เลือดสุพรรณ"
ไม่ตุกติก ไม่งอแง ไม่หลบหน้า ไม่หนีประชุม ไม่หนีลงมติ
เรื่องสถานบันเทิงครบวงจร ที่ดูเหมือนกำลังไปได้สวย มีโอกาสได้แจ้งเกิดค่อนข้างแน่ ก็ยังมีโอกาสสะดุดขาตัวเองหกล้มอยู่ โดยเฉพาะขาของพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันเอง ซึ่งถึงตอนนี้มีเพียงพรรคเพื่อไทยพรรคเดียวเท่านั้นที่เปิดหน้าผลักดันชัดเจน ขณะที่พรรคร่วมรัฐบาลอื่นยังสงวนท่าทีรอดูทิศทางลมอยู่ แม้จะร่วมลงมติเห็นชอบในหลักการร่างกฎหมายไปแล้วก็ตาม
ภาพของสถานบันเมิงครบวงจรในตอนนี้จึงมีเพียงพรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำรัฐบาลที่ออกแรงผลักดันเต็มกำลัง
แต่กระบวนการทางกฎหมายจะเดินไปอย่างช้าๆ
เหมือนพรรคเพื่อไทยกำลังออกแรงเข็นหินก้อนใหญ่ขึ้นภูเขา หากไม่มีมือพรรคร่วมรัฐบาลมาช่วยเข็น หรือมาช่วย แต่แค่แตะๆ จับๆ ออกแรงไม่เต็มที่ การเดินหน้าก็เป็นไปได้ยาก
เมื่อยังไม่ถึงเวลาตัดสินใจขั้นเด็ดขาด ก็ยังประคับประคองสวงวนท่าทีรักษาน้ำใจกันไป เพื่อรักษาสถานะความเป็นพรรคร่วมรัฐบาล
แต่เมื่อถึงวันต้องตัดสินใจ อะไรก็เกิดขึ้นได้ ทั้งสนับสนุน หรือลอยแพพรรคเพื่อไทย
ระหว่างรอ ก็ดูทิศทางลม ดูกระแสในสังคมไปเรื่อยๆ
กระแสส่วนใหญ่ไหลไปทางไหนก็เลือกทางนั้น เพราะในสนามเลือกตั้งต้องขอเสียงจากประชาชน