8 เทคนิค ยืนนาน..ยังไหว
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เผยแพร่ข้อมูล หัวข้อ "ขา…ครู ต้องใส่ใจ" ระบุ วันที่ 16 มกราคมทุกปี ถือเป็นวันครู กำหนดขึ้นครั้งแรกในปี 2500 เพื่อระลึกถึงความสำคัญของอาชีพครู ที่ได้ทำให้เติบโตมาเป็นคนดีรู้วิชา และยังเป็นอาชีพที่เสียสละเพื่อส่วนรวมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการยืนสอนในแต่ละวัน ครูหลาย ๆ ท่านก็คงยืนสอนวันนึงไม่ตำกว่า 3 ชม.ต่อวันเป็นแน่ และการยืนนาน ๆ มักมีปัญหาอาการปวดน่อง เท้า และหลัง กันทวนหน้า กรมอนามัย จึงนำเทคนิคเมื่อจำเป็นต้องยืนนาน ๆ มาให้บรรดาครู ๆ ทั้งหลายลองนำไปปรับใช้กันดูค่ะ 8 เทคนิค ยืนนานก็ยังไหว
1. ยืนบนพื้นนิ่ม เพื่อลดแรงกดที่เท้า อาจจะใช้พรมเช็ดเท้านิ่ม ๆ ทดสอบพรมด้วยการถอดรองเท้ายืนบนพรมนั้น หลังจากนั้นลองยืนเท้าเดียว หากรู้สึกสบายเท้าและยืนได้มั่นคงถือใช้ได้
2. ใส่รองเท้าที่มีพื้นนิ่มและหลวมเล็กน้อยช่วยลดแรงกดได้เท่ากับพื้นนิ่ม ๆ สำหรับที่เลือกหลวม ๆ เพราะ ตกเย็นเท้าอาจบวมได้เล็กน้อยจากการยืนนาน
3. ไม่ควรใส่ส้นสูงในการทำงาน การใส่ส้นสูงไม่เกิน 2 นิ้ว สามารถช่วยลดแรงกดที่ส้นเท้าได้ ในกรณีที่ชอบการใส่ส้นสูง
4. ยืนเท้าโต๊ะ โดยใช้แขนหรือศอดรับน้ำหนักตัวทางด้านหน้าสลับกับการใช้ก้นหรือหลังพิงผนังเป็นครั้งคราว เพื่อลดน้ำหนักที่กระทำต่อหลังและเท้า
5. พักการยืนบ่อยๆ หย่อนขาข้างหนึ่ง หรืออาจใช้ที่วางเท้าเป็นบล็อกสูงจากพื้นประมาณ 4-6 นิ้ว
6. ถ้างานที่ทำสามารถทำได้ทั้งในขณะยืนและ นั่ง ให้ยืนสลับนั่ง แต่ต้องจัด สภาพงานให้เหมาะสม เช่น โต๊ะยืนทำงานไม่ควรเตี้ยเกินไปจนต้องก้มหลัง อาจจัดโต๊ะให้ทำงาน 2 ชุด คือชุดยืนและนั่งทำงาน แล้วให้ทำงานสลับหน้าที่กันเป็นระยะ ๆ
7. เมื่อรู้สึกเมื่อย ให้เดินไปมาสัก 2-3 นาที จึงค่อยนั่งลง ยกขา 2 ข้างพาดบนที่นั่งของเก้าอี้อีก ตัวหนึ่ง ให้เท้าอยู่สูงประมาณระดับเข่า เพื่อช่วยเลือดจากขากลับเข้าสู่หัวใจดีขึ้น ป้องกันเส้นเลือดขอด มีโอกาสพักอย่ายืนคุยให้นั่งยกขาพาดเก้าอี้ อาจจะกระดก ปลายเท้าสลับกันซ้าย-ขวาร่วมด้วย
8. กลับถึงบ้านให้นอนเอาเท้ายันกับกำแพง ให้เท้าอยู่สูงจากพื้นประมาณครึ่งเมตร แล้วกระดกปลาย เท้าขึ้นสลับกันทั้ง 2 ข้าง ทำประมาณ 10 นาที ออกกำลังด้วยการเดิน วิ่ง หรือว่ายน้ำ เป็นเวลา 15-20 นาที สัปดาห์ละ 3 ครั้ง เพื่อช่วยการไหลเวียนของเลือดที่ไปเลี้ยงขา พักผ่อนด้วยการนอนให้พอเพียงอย่างน้อยวันละ 6 ชั่วโมง
ข้อมูลโดย : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ
สามารถ ติดตามสาระความรู้สุขภาพ เพิ่มเติมได้ที่
https://multimedia.anamai.moph.go.th/
