แบงก์ชาติชี้เศรษฐกิจอีสานซึมยาว จี้รัฐเร่งแก้ไข
ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ แบงก์ชาติ เปิดเผยข้อมูลระบุเศรษฐกิจภาคอีสานยังไม่ฟื้นตัว และหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 อีสานเป็นภูมิภาคที่เศรษฐกิจฟื้นตัวได้ช้ากว่าภูมิภาคอื่นๆ
ทั้งนี้เป็นเพราะรายได้หลักของคนอีสานส่วนมากมาจากการทำอาชีพเกษตรกรรมซึ่งมีความผันผวนไม่แน่นอน นอกจากนี้ยังมีปัญหาหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ประกอบกับค่าครองชีพที่สูงสุด ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็น ปัจจัยที่ฉุดรั้งกำลังซื้อคนอีสานในช่วงที่ผ่านมา และสร้างแรงกดดันต่อการบริโภคของคนอีสานในระยะข้างหน้า ซึ่งถ้าเรายังไม่เริ่มลงมือแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง ปัจจัยฉุดรั้งต่าง ๆ อาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีของคนอีสานในระยะยาว
ครัวเรือนอีสานมีรายได้เติบโตช้า ไม่พอสำหรับรายจ่าย โดยในปี 2556-66 รายได้จากการทำงานของครัวเรือนเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 0.9 ต่อปี น้อยกว่าการเติบโตของรายจ่ายเฉลี่ยที่เติบโตร้อยละ 1.3 ต่อปี จึงทำให้มีส่วนต่างระหว่างรายได้กับรายจ่ายต่อเดือนติดลบอย่างต่อเนื่องและติดลบมากกว่าทุกภูมิภาค
ในปี 2566 ครัวเรือนอีสานมีรายได้น้อยกว่ารายจ่ายถึง 5,396 บาทต่อเดือน ทำให้ครัวเรือนอีสานยังพึ่งพาเงินช่วยเหลือมากกว่าทุกภูมิภาค
เมื่อพิจารณาด้านรายจ่ายครัวเรือนในปี 2566 จำแนกตามวัตถุประสงค์ พบว่า ครัวเรือนอีสานมีรายจ่ายเพื่อการบริโภคมากที่สุดหรือร้อยละ 38 ของรายจ่ายทั้งหมด แต่รายจ่ายที่น่าสนใจ คือ รายจ่ายเพื่อสังคมและนันทนาการ ซึ่งเป็นรายจ่ายที่สามารถลดได้ ซึ่งมีมากถึงร้อยละ 13 ของรายจ่ายทั้งหมดสูงกว่าทุกภูมิภาค ค่าใช้จ่ายเหล่านี้อาจเบียดบังค่าใช้จ่ายเพื่อการบริโภคที่จำเป็นด้านอื่นได้
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ธนาคารแห่งประเทศไทย