"รอยร้าว" หลัง "รอยยิ้ม"
คอลัมน์ ...จับกระแสการเมือง / เขียนโดย ... สมศักดิ์ ไม้พรต / เว็บไซต์โลกธุรกิจ / เผยแพร่ 20 ต.ค .67
ในช่วงที่บ้านเมืองมีเรื่องให้ดราม่ากันทุกวัน จนข่าวด้านการเมืองแทบไม่ถูกนำเสนอจากสื่อ จนทำให้คนทั่วไปรู้สึกเหมือนว่ารัฐบาลภายใต้การนำของ น.ส.แพรทองธาร ชินวัตร กำลังเดินหน้าไปได้ด้วยดีแต่ในความเป็นจริงหาเป็นเช่นนั้นไม่
ที่ไม่เป็นเช่นนั้นเพราะ
1.มีข้อร้องเรียนมากมายที่ถูกยื่นให้บรรดาองค์อิสระทั้งหลายตรวจสอบเอาผิด
ทั้งเอาผิดตัวบุคคล โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพุ่งเป้าเอาผิดต่อนายกรัฐมนตรี
ทั้งเอาผิดพรรคเพื่อไทย และเอาผิดพรรคการเมืองร่วมรัฐบาล
2.ความไม่ลงรอยกันของพรรคการเมืองร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะพรรคแกนนำอย่างพรรคเพื่อไทย กับพรรคที่มีเสียงส.ส.มากเป็นอันดับสองในรัฐบาลอย่างพรรคภูมิใจไทย
แม้แกนนำทั้งสองพรรคต่างยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า "ไม่มีปัญหา"
แต่ในทางข่าวทุกคนต่างรู้ดีว่าการ "ปฏิเสธ" คือการ "ยอมรับ" อย่างหนึ่ง ซึ่งที่ผ่านมามีให้เห็นแล้วหลายกรณีว่าเรื่องที่ปฏิเสธในตอนแรกมักเป็นความจริงในเวลาต่อมาแทบทั้งสิ้น
หากจะถามว่าพรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทยไม่ลงรอยกันเรื่องใดบ้าง
เท่าที่เห็นในเบื้องหน้าก็มีอยู่หลายเรื่อง เช่น เรื่องนโยบายกัญชา ที่แม้พรรคเพื่อไทยจะยอมอ่อนข้อให้ตามความต้องการของพรรคภูมิใจไทยไปแล้วตั้งแต่สมัยนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ความเห็นไม่ตรงกันต่อนโยบายกัญชายังเป็นระเบิดเวลาที่รอ "ตูมสนั่น" ขึ้นมา เมื่อไหร่ก็ได้
ยังมีประเด็นสำคัญที่ทั้งเพื่อไทยและภูมิใจไทยเห็นไม่ตรงกันจนมีการหักกันในสภาหลายครั้ง ทั้งที่เคยตกลงกันไว้ก่อนแล้วเช่น การแก้กฎหมายการออกเสียงประชามติ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เรื่องนิรโทษกรรมที่คณะกรรมาธิการของสภาพิจารณาเสร็จแล้ว
ทุกเรื่องล้วนเป็นประเด็นหลักที่พรรคเพื่อไทยใช้เป็นนโยบายเรื่องธงหาเสียงไว้ทั้งสิ้น
ถ้า "ไม่ได้ทำ" หรือ "ทำไม่ได้" เลือกตั้งครั้งต่อไปมีหวังเหนื่อยหนัก เพราะลำพังแค่ตระบัดสัตย์ข้ามขั้วก็หนักหนาสาหัสแล้ว หากนโยบายเรื่องธงอื่นทำไม่ได้อีก จะตกที่นั่งลำบาก
ที่หวังว่าจะใช้ผลงานด้านเศรษฐกิจกลบเรื่องอื่น ก็ใช่ว่าจะทำได้ง่าย เพราะสภาพเศรษฐกิจยังอยู่ในอาการโคม่า ยิ่งมาสะดุดเรื่องแจกเงินหมื่น ที่ทำได้ไม่ตรงปรก ไม่เป็นไปตามที่โฆษณาหาเสียงไว้ ยิ่งฉุดคะแนนติดลบ
แม้นายกรัฐมนตรีจะนัดแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลร่วมวงกินข้าว
แม้ภาพที่เผยแพร่ออกมาจะดูแนบแน่น อบอุ่น
แต่ในความแนบแน่น ก็ยังมองเห็น "ช่องว่าง"
ในความอบอุ่นยังมีความรู้สึก "ร้อนๆหนาวๆ"
ภาพของการเมืงหลังจากนี้จะมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ขึ้นอยู่กับว่าอะไรจะเกิดก่อน
ระหว่างความเปลี่ยนแปลงอันเกิดจากคำตัดสินขององค์กรอิสระ
กับความเปลี่ยนแปลงอันเกิดจากการตัดสินใจทางการเมืองบางอย่างของน.ส.แพรทองธาร ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย
ไม่ว่าจะเปลี่ยนแปลงโดยคำตัดสินขององค์กรอิสระ ไม่ว่าจะเปลี่ยนแปลงเพราะพรรคแกนนำรัฐบาลอย่างเพื่อไทยตัดสินใจให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
"อำนาจ" อาจกลับคืนสู่มือประชาชนไวกว่ากำหนดก็เป็นได้