เอส โฮเทลแอนด์ รีสอร์ท โชว์กำไรครึ่งปีแรก 40 ล้านบาท พร้อมเดินหน้ากลยุทธ์การเติบโตต่อเนื่อง
นอกเหนือจากแนวโน้มจำนวนนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง การนำเสนอห้องพักรูปแบบใหม่ที่สามารถตอบสนองเทรนด์การท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ซึ่งกำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น เป็นผลให้โรงแรมทั้งสองแห่งในฟิจิมีรายได้เติบโตขึ้นโดดเด่นกว่า 46% เช่นเดียวกับความมุ่งมั่นในการดำเนินกลยุทธ์การตลาดเชิงรุก และการกำหนดราคาห้องพักแบบยืดหยุ่นที่มีประสิทธิภาพ (Dynamic Pricing) ได้ช่วยสร้างส่วนผสมลูกค้าให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น (Balanced market-mix) ทั้งยังหนุนให้รายได้เฉลี่ยต่อห้อง (RevPAR) ของโรงแรม 2 แห่งในโครงการ CROSSROADS Maldives และโรงแรมที่บริษัทฯ บริหารจัดการเองอีก 3 แห่งในประเทศไทย ปรับเพิ่มขึ้น 12% และ 17% ตามลำดับ
โดยความสำเร็จดังกล่าวข้างต้น สามารถชดเชยผลกระทบของการปิดปรับปรุงห้องพักบางส่วนของโรงแรมทราย ลากูน่า ภูเก็ต จำนวน 173 ห้อง ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนเมษายน 2567 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ภาพรวมรายได้ในไตรมาส 2 ของปี 2567 เพิ่มขึ้น 8% และมีกำไรจากการดำเนินงาน (EBITDA) เติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งกว่า 27% จากงวดเดียวกันของปีก่อน อยู่ที่ 563.7 ล้านบาท
สำหรับครึ่งแรกของปี 2567 SHR รายงานรายได้จากการให้บริการเพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อยู่ที่ 5,211.9 ล้านบาท สอดคล้องกับแนวโน้มการฟื้นตัว และการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศไทย มัลดีฟส์ และฟิจิ ขณะที่โรงแรมในสหราชอาณาจักรมีรายได้ลดลง ซึ่งเป็นผลมาจากสัญญาเช่าบริหารโรงแรม 1 แห่งที่สิ้นสุดลงในช่วงปลายปี 2566 และการขายสินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อขาย โรงแรม Mercure Wetherby ด้วยมูลค่า 5.8 ล้านปอนด์ (เทียบเท่า 269.5 ล้านบาท) ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา โดยการขายสินทรัพย์ครั้งนี้ จะช่วยลดภาระดอกเบี้ยลงได้ประมาณ 20 ล้านบาทต่อปี ทั้งยังส่งผลให้อัตราหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (IBD/E Ratio) ณ สิ้นไตรมาส 2/2567 ลดลงเหลือ 0.81 เท่า ซึ่งต่ำกว่าเงื่อนไขทางการเงินของบริษัทฯ สะท้อนถึงสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง และความพร้อมสำหรับการลงทุนเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนได้ต่อไปในอนาคต
นายไมเคิลกล่าวเพิ่มเติมว่า การบรรลุข้อตกลงในการขายโรงแรม Mercure Wetherby เป็นส่วนหนึ่งของการเดินหน้ากลยุทธ์หมุนเวียนสินทรัพย์ (Asset Rotation) อย่างต่อเนื่องของบริษัทฯ เช่นเดียวกับความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ Ascott ในการยกระดับโรงแรมศักยภาพที่ตั้งอยู่ในเมืองท่องเที่ยวและศูนย์กลางทางเศรษฐกิจทั้งสี่แห่งในสหราชอาณาจักร โดยจะดำเนินการควบคู่ไปกับการแสวงหาโอกาสในการขยายธุรกิจที่มีศักยภาพ คุ้มค่าเงินลงทุน ทั้งยังสามารถรักษาระดับความมั่นคงของฐานะการเงินของบริษัทฯ ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพผลการดำเนินงานให้ดียิ่งขึ้น
“SHR มุ่งเน้นที่การเติบโตแบบยั่งยืนเป็นหัวใจหลักในการดำเนินงาน จะเดินหน้าตามแผนกลยุทธ์ที่ได้วางเอาไว้ ผ่านการปรับปรุงคุณภาพสินทรัพย์ ยกระดับประสิทธิภาพผลการดำเนินงานของสินทรัพย์ในพอร์ทโฟลิโอปัจจุบัน มองหาช่องทางในการเข้าถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่มีศักยภาพ เพื่อบริหาร RevPAR ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมในทุกสภาวะตลาด พร้อมกับเปิดรับโอกาสขยายธุรกิจใหม่ๆ ในรูปแบบที่มีเหมาะสมและคุ้มค่าอยู่เสมอ โดยทั้งหมดเราจะดำเนินการควบคู่กันกับการพัฒนาแบรนด์ทราย (SAii) เพื่อยกระดับประสบการณ์การเข้าพักแก่ลูกค้า และสร้างรากฐานธุรกิจที่แข็งแกร่ง ให้สามารถมั่นใจได้ว่าจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าที่สุดให้แก่ผู้ถือหุ้น” นายไมเคิล กล่าวปิดท้าย