สธ.ลุยคัดกรองไวรัสตับอักเสบบี/ซี ต่อเนื่อง หวังลดผู้เสียชีวิตจากมะเร็งตับ
กระทรวงสาธารณสุขประกาศผลสำเร็จการคัดกรองไวรัสตับอักเสบ บี และ ซี ในประชาชนกลุ่มเสี่ยง ได้เกินเป้าหมาย 1.8 ล้านคนทั้งสองโรค ตั้งเป้าคัดกรองต่อเนื่องให้ได้ 42 ล้านคนในปี 2573 ชี้หากนำผู้ติดเชื้อเข้าสู่ระบบการรักษาได้ครบ จะลดอัตราการเกิดโรคตับแข็งและมะเร็งตับได้มากกว่า 5,000 คน ต่อปีและลดการเสียชีวิตจากโรคดังกล่าวได้ถึง 1,600 คนต่อปี
วันที่ 19 สิงหาคม 2567 ที่โรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ นายแพทย์กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ร่วมเป็นประธานในการเปิดงานประชุมเชิงปฏิบัติการขับเคลื่อนการดำเนินงานการกำจัดโรคไวรัสตับอักเสบ โดยมีนายแพทย์นิติ เหตานุรักษ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค รวมทั้งคณะผู้บริหารและเครือข่ายดำเนินงานทั่วประเทศกว่า 200 คน เข้าร่วมประชุม พร้อมกันนี้ได้มีพิธีมอบประกาศเกียรติคุณแก่หน่วยงานดีเด่นในการดำเนินงานด้านโรคไวรัสตับอักเสบบีและซี เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้กับผู้ปฏิบัติงาน
![]() |
นายแพทย์กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ |
นายแพทย์กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ กล่าวว่า โรคไวรัสตับอักเสบบี และ ซี ขึ้นชื่อว่าเป็นปัญหาทางสาธารณสุขระดับนานาชาติรวมถึงประเทศไทย เนื่องจากเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งตับ สำหรับในประเทศไทยถือเป็นโรคอันดับหนึ่งในผู้ชาย และเป็นอันดับ 4 ในผู้หญิง องค์การอนามัยโลกและประเทศสมาชิกจึงเห็นชอบในการกำจัดโรคดังกล่าวให้สำเร็จภายในปี 2573 ซึ่งการเดินหน้าคัดกรองกลุ่มเป้าหมายโดยเฉพาะซึ่งก็คือผู้ที่เกิดก่อน พ.ศ. 2535 ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะไวรัสตับอักเสบซี หากพบว่ามีการติดเชื้อแล้วสามารถให้ยาและรักษาให้หายขาดได้ ภายในเวลาประมาณ 3 เดือน ในส่วนของค่ารักษาตัวยาของไวรัสตับอักเสบบี ก็อยู่ในสิทธิประโยชน์ทุกกองทุน ไม่ว่าจะเป็นสิทธิบัตรทอง ประกันสังคม หรือกองทุนของกรมบัญชีกลางซึ่งจะช่วยผู้ป่วยในการลดค่าใช้จ่ายในการรักษา รวมถึงลดโอกาสในการเกิดโรคตับแข็งและมะเร็งตับในอนาคต
![]() |
นายแพทย์นิติ เหตานุรักษ์ |
ด้านนายแพทย์นิติ เหตานุรักษ์ ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้ที่เกิดก่อน พ.ศ. 2535 จะมีอัตราความชุกในการเกิดไวรัสตับอักเสบ บี คือร้อยละ 4 ส่วนผู้ที่เกิดหลังจาก พ.ศ. 2535 จะมีการฉีดวัคซีนในเด็กทุกคนแล้ว ความชุกก็จะเหลือร้อยละ 0.6 ส่วนเรื่องของตับอักเสบ ซี มีความชุกอยู่ที่ร้อยละ 1 คาดการณ์ว่ามีประมาณ 5 แสนถึง 7 แสนคนที่เป็นตับอักเสบซี ซึ่งใน 4 ปีที่ผ่านมาเราได้ทำการรักษาไปแล้วกว่า 4 หมื่นคน โครงการนี้เป็นโครงการที่กระทรวงสาธารณสุขทำมาอย่างต่อเนื่องตลอด 5 ปีที่ผ่านมา เพียงแต่ช่วงหลังนั้นได้มีการเข้าสู่สิทธิประโยชน์ เราก็มีการประชาสัมพันธ์เปิดตัวในทุกๆ ภาคส่วนของประเทศไทย เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบอย่างทั่วถึง และไปใช้สิทธิในการตรวจคัดกรอง ในปี 2567 เป้าหมาย 1 ล้านคน ตอนนี้ตรวจคัดกรองได้ไป 1.8 ล้าน ก็ถือว่าทุกคนให้การร่วมมือกันอย่างดี เมื่อผลการคัดกรองเกินเป้าในอนาคตเราคาดหวังตัวเลขมากถึง 10 ล้านคน ฉะนั้นเรามุ่งหวังว่ากลุ่มเป้าหมายประมาณ 40 ล้านคนเศษ ควรได้รับการคัดกรองด้วยสิทธิประโยชน์ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้อยู่แล้ว
“สำหรับผู้ที่เกิดก่อนปี 2535 หรือกลุ่มเสี่ยง สนใจเข้ารับการตรวจคัดกรองโรคตับอักเสบ บี และ ซี เพียงท่านนำบัตรประชาชนไปติดต่อที่สถานพยาบาลใกล้บ้านท่านก็สามารถเข้ารับการตรวจได้ฟรี 1 ครั้งตลอดช่วงชีวิต หากพบว่ามีการติดเชื้อก็สามารถรักษาได้ตามสิทธิประโยชน์ทุกกองทุน และข้อดีของการได้ทราบว่าติดเชื้อหรือไม่ คือสามารถรักษาได้ทันท่วงทีและรักษาให้หายขาดได้ ก่อนจะลุกลามลายไปเป็นตับแข็งหรือมะเร็งตับซึ่งมีอันตรายถึงชีวิต” นายแพทย์นิติกล่าว
นอกจากนี้ภายในงานมีการจัดแสดงนิทรรศการภายใต้แนวคิด “We’re not waiting : HBV & HBC ตรวจเลย รอไม่ได้ เข้าถึงง่ายด้วยบัตรประชาชนใบเดียว” เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ในเรื่องโรคไวรัสตับอักเสบ และเวทีอภิปรายเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ วิธีการ และปัจจัยการสนับสนุนที่ทำให้การดำเนินงานประสบความสำเร็จในการตรวจคัดกรองของแต่ละพื้นที่ เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาด้านการป้องกันควบคุมโรคไวรัสตับอักเสบได้อย่างต่อเนื่อง