ศาลรธน.สั่งยุบพรรคก้าวไกล-ตัดสิทธิ์ "พิธา" พร้อมกรรมการบริหาร 10 ปี

        วันที่ 7 สิงหาคม 2567 ที่ศาลรัฐธรรมนูญ  คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ออกนั่งบัลลังค์อ่านคำพิพาษาคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นเรื่องให้พิจารณา สั่งยุบพรรคก้าวไกลและตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรคตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองมาตรา 92 วรรคหนึ่ง (1) และ (2) จากกรณีมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคก้าวไกลกระทำการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จากกรณี  เสนอร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่...) พ.ศ.เพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้ง และยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเข้าข่ายเป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 วรรคหนึ่ง

ประเด็นจารณามี 3 ประเด็น ซึ่งศาลฯ มีคำตัดสินโดยสรุปดังนี้ คือ 

1.การกระทำตามคำร้องของพรรคก้าวไกลเป็นเหตุให้ยุบพรรคหรือไม่ ซึ่งประเด็นนี้ศาลมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ยุบพรรคก้าวไกลตามคำร้องของ กกต.

2.กรรมการบริหารพรรคจะต้องถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองหรือไม่ ศาลมีมติให้ตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรคที่อยู่ในตำแหน่งระหว่างวันที่ 25 มีนาคม 2564 - วันที่ 31 มกราคม 2567 เป็นเวลา 10 ปี นับแต่วันมีคำสั่งให้ยุบพรรค

3.ห้ามไม่ให้กรรมการบริหารพรรคก้าวไกลที่ถูกตัดสิทธิ์ยุ่งเกี่ยวกับการจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ หรือเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองในระยะเวลาที่ถูกตัดสิทธิ์หรือไม่ ศาลมีมติห้ามบุคคลที่ถูกตัดสิทธิ์มีส่วนร่วมจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ จดแจ้งตั้งพรรคการเมืองใหม่  และห้ามเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองภายในกำหนดเวลา 10 ปีที่ถูกตัดสิทธิ์

        สำหรับกรรมการบริหาพรรคที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 10 ปี ตามคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญประกอบด้วย

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์, นายชัยธวัช ตุลาธน, นางสาวณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์, นายณกรณ์พงศ์ ศุภนิมิตตระกูล, นายปดิพัทธ์ สันติภาดา, นายสมชาย ฝั่งชลจิตร, นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล, นายอภิชาต ศิริสุนทร, นางสาวเบญจา แสงจันทร์, นายสุเทพ อู่อ้น และนายอภิสิทธิ์ พรมฤทธิ์