สวส.เตรียมเปิดเวทีระดมสมองผู้ประกอบการวิสาหกิจเพื่อสังคมมุ่งตอบโจทย์สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน 30-31 ก.ค.นี้

สวส.จัดงานแถลงข่าวประชุมสมัชชาวิสาหกิจเพื่อสังคม ประจำปี 2567 เพื่อเปิดเวทีให้ทุกภาคส่วนร่วมระดมความคิดเห็น พร้อมกำหนดแนวทางขับเคลื่อนการส่งเสริมและพัฒนาวิสาหกิจเพื่อสังคมและกลุ่มกิจการเพื่อสังคม ให้สอดรับแผนพัฒนาประเทศ สู่การเติบโตทางสังคมที่ยั่งยืน

เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2567 นางนภา เศรษฐกร ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม (สวส.) พร้อมทั้ง นายชูศักดิ์ จันทยานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออทิสติกไทย วิสาหกิจเพื่อสังคม จํากัด ประธานการประชุมสมัชชาวิสาหกิจเพื่อสังคม ประจําปี 2566 และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สันติ เติมประเสริฐสกุล คณบดีประจําคณะบริหารธุรกิจเพื่อสังคม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ หัวหน้าทีมนักวิชาการโครงการจัดงานประชุมสมัชชาวิสาหกิจ เพื่อสังคม ประจําปี 2566 และที่ปรึกษานักวิชาการโครงการจัดงานประชุมสมัชชาวิสาหกิจ เพื่อสังคม ประจําปี 2567 ร่วมแถลงข่าวงานประชุมสมัชชาวิสาหกิจเพื่อสังคม ประจำปี 2567 โดยจัดงานแถลงข่าวขึ้น ณ ห้อง Common Ground ชั้น 1 สถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (องค์การมหาชน)

นภา เศรษฐกร

นางนภา เศรษฐกร ผู้อำนวยการ สวส. กล่าวว่า สวส. เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินงานส่งเสริม สนับสนุนช่วยเหลือและพัฒนาวิสาหกิจเพื่อสังคม และกลุ่มกิจการเพื่อสังคม โดยตามพรบ.ส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม พ.ศ. 2562 มาตรา 75 ที่กำหนดให้มีการประชุมสมัชชาวิสาหกิจเพื่อสังคม อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อกำหนดนโยบายและแนวทางในการส่งเสริมและพัฒนาวิสาหกิจเพื่อสังคมและกลุ่มกิจการเพื่อสังคม ซึ่งนับว่าการประชุมสมัชชาฯจะมีความสำคัญเป็นอย่างมากต่อการขับเคลื่อนวิสาหกิจเพื่อสังคม และกลุ่มกิจการเพื่อสังคม ซึ่งการประชุมสมัชชาวิสาหกิจเพื่อสังคมจะเต็มไปด้วยการระดมความคิดเห็นจากผู้ประกอบการวิสาหกิจเพื่อสังคม กลุ่มกิจการเพื่อสังคม และผู้มีส่วนได้เสีย เพื่อขับเคลื่อนนโยบายภายใต้ความยั่งยืนอย่างแท้จริง สู่การเป็น Mainstream Social Enterprise For Sustainable Future โดยการจัดการประชุมสมัชชาในปีนี้จะจัดขึ้นในวันที่ 30-31 กรกฎาคม 2567 ณ ห้อง Conference Hall ชั้น 2 สถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (องค์การมหาชน)

ชูศักดิ์ จันทยานนท์

นายชูศักดิ์ จันทยานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออทิสติกไทย วิสาหกิจเพื่อสังคม จํากัด ประธานการประชุมสมัชชาวิสาหกิจเพื่อสังคม ประจําปี 2566 กล่าวว่า การประชุมสัมชชาฯปีที่แล้ว พบปัญหาที่ผู้ประกอบการร่วมกันสะท้อนออกมาหลายประเด็น เช่น การรับรู้ของคนในสังคมเกี่ยวกับวิสาหกิจเพื่อสังคมที่ยังไม่เป็นที่รู้จกในวงกว้างนัก เรื่องแหล่งทุนสนับสนุนผู้ประกอบการ การพัฒนาองค์ความรู้ ปัญหาเรื่องแรงงาน

"ปัญหาที่ผู้ประกอบการสะท้อนมาไม่ต่างจากสิ่งที่ได้รับทราบมาก่อนหน้านี้ ซึ่งก็ไดมีการแก้ไขไปพอสมวรแล้ว แต่ที่ยังเห็นปัญหาอยู่ก็เพราะว่าเรื่องเหล่านี้ต้องใช้เวลาในการดำเนินการ  อย่างเรื่องการสร้างความรับรู้เกี่ยวกับสาหกิจเพื่อสังคมที่ผ่านมาก็มีการประชาสัมพันธ์สร้างความรับรู้ความเข้าใจมากขึ้น หรืออย่างเรื่องแหล่งทุนก็มีการเจรจากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขอรับการสนับสนุนซึ่งก็เป็นไปในทิศทางที่ดี เรื่องการพัฒนาองค์ความรู้ เรื่องแรงงาน ขณะนี้ก็มีสถาบันการศึกษาหลายแห่งเปิดหลักสูตรการเรียนการสอนแล้ว คิดว่าในอนาคตปัญหาต่างๆน่าจะดีขึ้น"นายชูศักดิ์  กล่าวและว่า การประชุมสัมชชาที่จะจัดขึ้นในปีนี้จึงอยากให้สมาชิกมาร่วมสะท้อนปัญหาและหาแนวทางร่วมกันแก้ไข หากมาร่วมประชุมแบบออนไซต์ไม่ได้ก็สามารถเข้าร่วมประชุมแบบออนไลน์ได้ และเห็นด้วยที่มีผู้เสนอว่าจะให้ผู้ประกอบการที่สะท้อนปัญหาเข้ามาร่วมกันแก้ปัญหาด้วย หลักเมื่อสะท้อนปัญหามาแล้วต้องเสนอทางแก้และมาร่วมกันทำงานเพื่อแก้ไขด้วยเพื่อให้การแก้ไขปัญหาต่างๆสำเร็จลุล่วงอย่างเป็นรูปธรรม

ดร.สันติ เติมประเสริฐสกุล

ด้านดร.สันติ เติมประเสริฐสกุล คณบดีประจําคณะบริหารธุรกิจเพื่อสังคม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ หัวหน้าทีมนักวิชาการโครงการจัดงานประชุมสมัชชาวิสาหกิจ เพื่อสังคม ประจําปี 2566 และที่ปรึกษานักวิชาการโครงการจัดงานประชุมสมัชชาวิสาหกิจ เพื่อสังคม ประจําปี 2567 กล่าวว่า เพื่อให้การสะท้อนปัญหาและแก้ปัญหาต่างๆ เกิดความชัดเจนและตรงจุดจะมีการแบ่งผู้ประกอบการออกเป็นกลุ่มๆ เช่นกลุ่มเกษตร กลุ่มส่งแวดล้อม กลุ่มผู้ประกอบการที่ยังไม่ได้ลงทะเบียน หรือเรื่องสิทธิประโยชน์ที่ผู้ประกอบการวิสาหกิจ เพื่อสังคมจะได้รับ

"เมื่อแบ่งเป็นกลุ่มแล้ว การสะท้อนปัญหาและการแก้ปัญหาก็จะชัดเจนตรงประเด็นไม่ว่าจะเป็นเรื่องการสร้างความรู้การสร้างองค์ความรู้ ปัญหาแหล่งทุน ปัญหาแรงงาน หรือเครื่องจักรที่ใช้ในการผลิต  เมื่อเห็นปัญหาแต่ละกลุ่มชัดแนวทางแก้ปัญหาก็จะชัดขึ้นด้วย"ดร.สันติ กล่าวและว่า อยากให้ผู้ประกอบการมาร่วมกันในงานประชุมสมัชชาฯ แม้ผู้ประชุมจะเป็นสมาชิกกลุ่มเดิม แม้ปัญหาที่สะท้อนออกมาจะเป็นเรื่องเดิม แต่สวส. พร้อมรับฟังเสียงสะท้อนและจะสะท้อนปัญหาเหล่านั้นไปสู่ระดับนโยบายเพื่อร่วมกันผลักดันให้เกิดการแก้ไขต่อไป