Header Ads

ครม.ไฟเขียมลดหย่อนภาษีกระตุ้นท่องเที่ยวช่วง low season

ครม.เห็นชอบมาตรการหักลดหย่อนภาษีทั้งในส่วนนิติบุคคลและบุคคลธรรมดา เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศช่วง low season นายกฯสั่งทีมท่องเที่ยวดึงนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนักจากตะวันออกกลางเข้าประเทศ

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2567 คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวภายในประเทศ ซึ่งเป็นมาตรการที่จะสนับสนุนการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวไทยให้เป็นไปอย่างต่อเนื่องและทั่วถึง รวมถึงกระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยประกอบด้วย 2 มาตรการ ดังนี้

1. มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการจัดอบรมสัมมนาภายในประเทศ (สำหรับนิติบุคคล) บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลสามารถนำรายจ่ายค่าห้องสัมมนา ค่าห้องพัก ค่าขนส่ง หรือรายจ่ายอื่นที่เกี่ยวข้องในการอบรมสัมมนาภายในประเทศที่จัดขึ้นให้แก่ลูกจ้าง หรือค่าบริการของผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์เพื่อการอบรมสัมมนาดังกล่าว ที่จ่ายไปตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2567 หักเป็นรายจ่ายในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล โดยจะต้องมีใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice & e-Receipt) ของกรมสรรพากร เว้นแต่ค่าขนส่งจะจ่ายให้แก่ผู้มิใช่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มก็ได้ ซึ่งจะต้องได้รับใบรับตามมาตรา 105 แห่งประมวลรัษฎากร ในรูปแบบใบรับอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt ของกรมสรรพากร โดยสิทธิประโยชน์ทางภาษี ได้แก่

1.1 สามารถหักรายจ่ายได้ 2 เท่าของรายจ่ายตามที่จ่ายจริง สำหรับการอบรมสัมมนาที่จัดในจังหวัดท่องเที่ยวรองหรือในเขตพื้นที่ท่องเที่ยวอื่นใดที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกำหนดโดยคำแนะนำของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

1.2 สามารถหักรายจ่ายได้ 1.5 เท่าของรายจ่ายตามที่จ่ายจริง สำหรับการอบรมสัมมนาที่จัดในท้องที่อื่นนอกจากท้องที่ตามข้อ 1.1

1.3 ในกรณีที่การจัดอบรมสัมมนาครั้งหนึ่ง ๆ เกิดขึ้นในท้องที่ตามข้อ 1.1 และข้อ 1.2 ต่อเนื่องกัน ให้หักรายจ่ายที่สามารถแยกได้ว่าเกิดขึ้นในท้องที่ใดตามข้อ 1.1 หรือข้อ 1.2 แล้วแต่กรณี และให้หักรายจ่ายที่ไม่สามารถแยกได้ว่าเกิดขึ้นในท้องที่ใดได้ 1.5 เท่าของรายจ่ายตามที่จ่ายจริง

ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกำหนด

2. มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวในประเทศ (สำหรับบุคคลธรรมดา)

ผู้มีเงินได้ซึ่งมีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่ไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคลสามารถนำค่าบริการที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ หรือที่ได้จ่ายเป็นค่าที่พักในโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม ค่าที่พักโฮมสเตย์ไทยหรือค่าที่พักในสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดท่องเที่ยวรองได้ตามที่จ่ายจริง แต่ต้องไม่เกิน 15,000 บาท หักเป็นค่าใช้จ่ายในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2567 ซึ่งเป็นช่วงนอกฤดูท่องเที่ยว (Low Season)

ทั้งนี้ จะต้องมีใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice & e-Receipt) ของกรมสรรพากรด้วย

โฆษกกระทรวงการคลังกล่าวย้ำว่า มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวภายในประเทศดังกล่าว จะช่วยสนับสนุนภาคธุรกิจท่องเที่ยวซึ่งเป็นภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่อยู่ระหว่างการฟื้นตัวให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเป็นการประชาสัมพันธ์ให้เกิดการท่องเที่ยวภายในประเทศในช่วง Low Season มากขึ้น เพื่อเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจภายในประเทศอีกด้วย 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากมาตรการดังกล่าวคาดว่าจะทำให้รัฐบาลสูญเสียรายได้จากการจัดเก็บภาษีประมาณ 1,500 ล้านบาท แต่จะมีรายได้ทางอื่นมาทดแทน

ด้านนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความในเฟสบุ๊ค เศรษฐา ทวีสิน - Srettha Thavisin ระบุ เร่งเครื่องท่องเที่ยวช่วง low season คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบมาตรการภาษี และอนุมัติหลักการร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวภายในประเทศ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ มีทั้งมาตรการภาษีสำหรับนิติบุคคล เพื่อสนับสนุนการจัดอบรมสัมมนา ภายในประเทศ หักค่าใช้จ่ายได้ 2 เท่าในจังหวัดรอง และ 1.5 เท่าในทุกจังหวัด พร้อมทั้งมาตรการภาษีสำหรับบุคคลทั่วไป โดยสามารถนำค่าใช้จ่ายจากการท่องเที่ยวในจังหวัดท่องเที่ยวรองมาหักภาษีได้ตามที่จ่ายจริง ไม่เกิน 15,000 บาท จนถึง 30 พฤศจิกายน 2567 

"เมื่อเที่ยงวันที่ 3 มิถุนายนที่ผ่านมาได้หารือกับทีมท่องเที่ยวที่ร้าน Roberta’s เพื่อเตรียมการลงพื้นที่ภาคเหนือปลายสัปดาห์นี้ และวางแนวทางกระตุ้นการท่องเที่ยวไตรมาส 3-4 สำหรับทุก segment แต่ส่วนที่จะเน้น คือ กลุ่มตะวันออกกลางที่เป็นกลุ่มมีกำลังซื้อสูง ซึ่งช่วง low season บ้านเราเป็นช่วงหน้าร้อนของภูมิภาคนั้นด้วย ต้องชวนให้มาหลบร้อนด้วยการเที่ยวเมืองไทยให้ได้เยอะ ๆ ครับ" นายกรัฐมนตรี ระบุ

------------------------
Theme images by fpm. Powered by Blogger.