Header Ads

"สวนดุสิตโพล"ชี้เดือนก.พ.ปัญหาเศรษฐกิจหนักกว่าการเมือง

“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “ดัชนีการเมืองไทย ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2567” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 2,335 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 20-26 กุมภาพันธ์ 2567 โดยมีตัวชี้วัด 25 ประเด็นที่บ่งบอกถึงความเชื่อมั่นต่อการเมืองไทยในด้านต่าง ๆ ซึ่งแต่ละตัวชี้วัดจะมีคะแนนเต็ม 10 คะแนน สรุปผลเรียงลำดับจากค่าคะแนนสูงสุดไปถึงต่ำสุด ได้ดังนี้ 

1. “ดัชนีการเมืองไทย” เดือนกุมภาพันธ์ 2567 ภาพรวมคะแนนเต็ม 10 ได้ 5.16 คะแนน (เดือนมกราคม 2567 ได้ 5.48 คะแนน)

2. ประชาชนให้คะแนน 25 ตัวชี้วัด “ดัชนีการเมืองไทย” โดยคะแนนเต็ม 10 เรียงลำดับจากมากไปหาน้อย ได้ดังนี้

3. นักการเมืองฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านที่ประชาชนคิดว่ามีบทบาทโดดเด่นในเดือนกุมภาพันธ์ 67

4. ผลงานของฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านที่ประชาชนชื่นชอบในเดือนกุมภาพันธ์ 67

"จากผลสำรวจจะเห็นได้ว่ากลุ่มตัวอย่างให้คะแนนดัชนีการเมืองไทยเดือนกุมภาพันธ์ลดลงทุกตัวชี้วัด โดยเฉพาะตัวชี้วัดด้านราคาสินค้า การว่างงาน ความยากจน และปัญหายาเสพติดที่ได้คะแนนไม่ผ่านครึ่ง สะท้อนให้เห็นว่าปัญหาเศรษฐกิจยังคงเป็นปัญหาที่ประชาชนคาดหวังและต้องการให้แก้ไขแบบเห็นผลในเร็ววัน ในขณะที่ฝ่ายค้านทำหน้าที่ตรวจสอบการทำงานอย่างละเอียดและต่อเนื่องนั้นรัฐบาลจึงต้องเร่งสร้างผลงานด้วยเช่นกัน"  นางสาวพรพรรณ บัวทอง นักวิจัยสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ระบุ

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ยอดชาย ชุติกาโม ประธานหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต โรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ให้ความเห็นว่า สถานการณ์ทางการเมืองในเดือนนี้ไม่มีความเคลื่อนไหวที่โดดเด่นเมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน มีปฏิสัมพันธ์กับสื่อมวลชนด้วยความระมัดระวังในการสื่อสารมากขึ้น และเน้นการลงพื้นที่ทำงาน ซึ่งนายกฯได้คะแนนถึงร้อยละ 51.15 ขณะที่การครองพื้นที่สื่อเดือนนี้ยังเป็นข่าวของฝ่ายค้าน โดยตัวชี้วัดที่ได้คะแนนสูงสุด คือ ผลงานของฝ่ายค้าน เฉลี่ย 5.52 คะแนน พิธา ลิ้มเจริญรัตน์  ซึ่งเพิ่งกลับสู่สถานภาพการเป็น ส.ส. ได้คะแนนถึงร้อยละ 68.41 ที่น่าสนใจคือผลงานตรวจสอบในเรื่องดิจิทัลวอลเล็ตของฝ่ายค้าน ที่ได้คะแนนถึงร้อยละ 57.93 ในเดือนนี้ปัญหาเศรษฐกิจกลับมีความโดดเด่นมากกว่าปัญหาการเมือง รัฐบาลต้องเร่งประชาสัมพันธ์การแก้ปัญหาเศรษฐกิจซึ่งผลงานยังไม่เป็นที่พึงพอใจของประชาชน เห็นได้จากตัวชี้วัดที่คะแนนต่ำสุดคือ การแก้ไขปัญหาความยากจน เฉลี่ย 4.78 คะแนน สะท้อนให้เห็นถึงสภาวะทางเศรษฐกิจของประชาชนส่วนใหญ่ยังมีปัญหาอยู่มาก แม้ว่าตัวเลขความพึงพอใจในการแก้หนี้นอกระบบจะสูงถึงร้อยละ 41.67 ก็ตาม

Theme images by fpm. Powered by Blogger.