Header Ads

กกร.ชี้ภาคการผลิตฟื้นไม่เต็มที่ส่งผลเศรษฐกิจยังอ่อนแอ

        ทิศทางเศรษฐกิจจากมุมมองคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ที่แถลงออกมาล่าสุดมีหลายประเด็นที่น่าสนใจดังนี้ 

กกร.คาดการณ์เศรษฐกิจโลกจะขยายตัวได้ประมาณ 3% ในปีนี้ ซึ่งใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากสองยักษ์ใหญ่อย่างจีนที่ภาครัฐมีมาตรการกระตุ้นอย่างต่อเนื่องและเศรษฐกิจสหรัฐยังมีความแข็งแกร่งแม้อัตราดอกเบี้ยจะคงอยู่ในระดับสูง

ด้านการส่งออกของไทยแม้จะมีความเสี่ยงหลายด้านและคาดว่าจะขยายตัวได้ 2-3% ในปีนี้ เนื่องจากตลาดเกิดใหม่มีการขยายตัวและถึงวงรอบของการเปลี่ยนสินค้าในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์  สำหรับภาพรวมของเศรษฐกิจยังยังเติบโตอย่างอ่อนแอ แม้การท่องเที่ยวจะดีแต่ภาคการผลิตยังไม่ฟื้น ประกอบกับสินค้าของไทยหลายรายการเริ่มไม่เป็นที่ต้องการของตลาด ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อติดลบอย่างต่อเนื่อง ทำให้เศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัว ทำให้กรอบประมาณการเศรษฐกิจปี 2567 เมื่อเทียบกับปี 2566 คงเดิมที่คาดว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) จะเติบโต 2.8-3.3% (ยังไม่รวมผลของมาตรการ Digital Wallet) ส่งออกขยายตัว 2-3.3% ขณะที่เงินเฟ้ออยู่ที่ 0.7-2%

นอกจากนี้ กกร.ยังเห็นด้วยกับมาตราการปล่อยกู้อย่างรับผิดชอบและเป็นธรรมของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพราะเชื่อว่าเป็นแนวทางแก้หนี้ให้ประชาชนได้ตรงจุด ส่วนหนี้ครัวเรือนต้องแก้ด้วยการเพิ่มรายได้และแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างที่สั่งสมมานาน ต้องลดขนาดเศรษฐกิจนอกระบบ ส่งเสริมการเข่งขันอย่างเป็นธรรมต่อธุรกิจขนาดเล็กเพื่อให้เศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างยั่งยืน

ส่วนข้อกังวลต่อเศรษฐกิจนั้น กกร.มีความกังวลต่อการทุ่มตลาดของสินค้าราคาถูกจากต่างประเทศที่อาสัยช่องทางการค้าผ่านระบบ E-commerce และการใช้ประโยชน์จาก Free Trade Zone เพื่อขายสินค้าในประเทศ รวมถึงการลักลอบนำเข้าสิน ทั้งเรื่องการสำแดงรายการเท็จเพื่อเลี่ยงภาษีและการลักลอบนำเข้า ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการรายย่อยในไทย จงขอเสนอให้ภาครัฐยกเว้นการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) สำหรับการซื้อสินค้าออนไลน์ที่ไม่เกิน 1,500 บาท เพื่อให้ผู้ประกอบการรายเล็กสามารถแข่งขันได้และควรทบทวนนโยบายและเงื่อนไขในการใช้สิทธิประโยชน์ใน Free Trade Zone พิจารณามาตรการตอบโต้การทุ่มลาด เพิ่มความเข้มงวดการนำเข้าตลอดจนออกข้อกำหนดมาตรการสินค้าให้คครอบคลุมมากขึ้น

Theme images by fpm. Powered by Blogger.