Header Ads

เรียกถกกรรมการ"ดิจิตัลวอลเล็ต"เดินหน้าโครงการต่อ

รมช.คลังเผยเรียกประชุมทีมดิจิตัลวอลเล็ตสัปดาห์หน้าถก 3 ประเด็นที่สังคมตั้งคำถาม ทุจริต ผลลัพธ์ การมีส่วนร่วม ระบุยังไม่คุยเปลี่ยนจากพ.ร.บ.กู้เงินเป็นพ.ร.ก.

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยผ่านเฟสบุ๊ค จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ระบุ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเรื่องนโยบายดิจิตัลวอลเล็ต ดังนี้

ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ออกมานั้นหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ เป็นภาวะที่ประชาชนขาดความมั่นใจในการใช้จ่าย ภาคเอกชนไม่กล้าลงทุน ถึงรัฐบาลจะดึงเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติได้สำเร็จ แต่ยังต้องใช้เวลากว่าจะเห็นผล 

การบริโภคชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัด จากตัวเลขอัตราเงินเฟ้อติดลบ 4 เดือนต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งมาจากการลดราคาพลังงาน แต่เป็นสิ่งที่รัฐบาลจำเป็นต้องทำเพื่อให้พี่น้องประชาชนสามารถประคับประคองตัวในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ได้ ขณะเดียวกันก็เป็นผลจากอัตราดอกเบี้ยที่สูง ซึ่งดูดสภาพคล่องออกไปจากระบบพอสมควร เราต้องการเม็ดเงินใหม่เติมลงไป นั่นก็คือการเติมเงินผ่านดิจิตัลวอลเล็ต 

มองว่ากลไกที่จะสร้างเม็ดเงินใหม่ได้ คือการออก พ.ร.บ.การกู้เงิน แต่เมื่อมีข้อท้วงติงมาจากทาง ป.ป.ช. เราก็ต้องรับฟัง แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่ได้ยินข่าวว่าจะเอาเข้าที่ประชุมในสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ตามนั่นคือข้อเสนอแนะและข้อห่วงใย เราไม่สามารถนำมาเป็นตัวกำหนดทิศทางนโยบายของเราได้

รัฐบาลจึงจะเดินหน้าทำงานคู่ขนานกันไป เราจะมีการนัดหมายการประชุมคณะกรรมการนโยบายเติมเงิน 10,000 บาทดิจิตัลวอลเล็ตภายในต้นสัปดาห์หน้าใน 3 ประเด็นหลัก

1) เรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่น : เรายืนยันว่ายังไม่มีเหตุการณ์ใดๆ เกิดขึ้นเพราะเรายังไม่ได้เดินหน้าโครงการนี้อย่างเป็นทางการ เราจะตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อวางแผนกำหนดกฎเกณฑ์กำหนดรูปแบบการใช้งานเพื่อไม่ให้ใช้เงินผิดประเภทครับ 

2) เรื่องผลลัพธ์ของนโยบายนี้มีมากน้อยเพียงใด : โมเดลทางเศรษฐศาสตร์ในปัจจุบัน ยังไม่มีโมเดลไหนที่ใช้ชี้ชัดได้อย่างมั่นใจ แต่สิ่งที่เราอยากทำให้ชัดเจนขึ้นคือความต้องการของภาคประชาชน ความต้องการของเอกชนโดยรวม เราจะตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาอีกชุดเพื่อรับฟังความคิดเห็นและเก็บข้อมูลต่างๆ เหล่านี้มานำเสนอให้เป็นที่ประจักษ์ครับ 

3) เรื่องการมีส่วนร่วมจากภาคเอกชน : เราได้รับฟังเสียงจากภาคเอกชนจำนวนมาก ทุกคนมองเห็นประโยชน์ของโครงการนี้และอยากมีส่วนร่วม เราต้องการสร้าง Transaction House กลางของภาครัฐซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับภาคเอกชนได้ เราจะหารือเพิ่มเติมเพื่อหาหนทางสร้างการเชื่อมต่อให้ครอบคลุมและกว้างขวาง ให้เป็นประโยชน์สูงสุดกับประชาชนผู้ใช้ ที่สำคัญที่สุดเป็นการเชื่อมโยงระบบชำระจ่ายเงินของประเทศให้มีความสมบูรณ์มากขึ้น

คำถามเพิ่มเติม

ไทม์ไลน์ของนโยบาย : มีการขยับออกไป แต่ด้วยสภาพสถานการณ์เศรษฐกิจ รัฐบาลเห็นเป็นเรื่องเร่งด่วนที่เราจะหยุดรอไม่ได้ เราจะเดินหน้าให้เร็วที่สุดครับ

การออกเป็นพระราชกำหนดแทนพระราชบัญญัติ : ยังไม่ได้หารือกัน แต่หากสถานการณ์เศรษฐกิจไปถึงจุดที่มีความจำเป็น เราอาจจะต้องมาหารือกันอีกที

จะลดวงเงินหรือไม่ : ไม่ลดครับ

-----------------------------

ที่มา : https://www.facebook.com/photo?fbid=839789928159955&set=a.332255845580035

Theme images by fpm. Powered by Blogger.