Header Ads

ดำเนินคดีมียาบ้าไม่เกิน 5 เม็ดต้องดูที่พฤติกรรม

        หลังมีดราม่าเรื่องเกณฑ์การถือครองยาเสพติดที่เพิ่งประกาศกฎกระทรวงสาธารณุขออกมาใหม่ โดยเฉพาะกรณียาบ้าที่ถือครองไม่เกิน 5 เม็ดให้ถือเป็นผู้เสพ ผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการบำบัด

เกี่ยวกับเรื่องนี้ พรรคเพื่อไทย ต้นสังกัดนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณุข ได้สรุปบทสัมภาษณ์บางช่วงบางตอนของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผยแพร่ผ่านเฟสบุ๊คพรรค ระบุ จากกรณี ‘เกณฑ์การครอบครองยา’ ที่พี่น้องประชาชนหลายคนเกิดความกังวลว่าจะเป็นการทำให้คนที่ครอบครองไม่ถูกดำเนินคดี นั้น

‘หมอชลน่าน’ ยืนยันว่า "ผู้ถูกจับกุมคดียาเสพติด" แม้ครอบครองเพียงเม็ดเดียว ก็จะถูกจับและเข้าสู่กระบวนการดำเนินคดีทุกราย หลังจากนั้น จึงจะมาดูปริมาณการครอบครอง และเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์ต่อไปว่า …

1) หาก ไม่มีหลักฐานที่บ่งชี้ว่าผู้ถูกจับกุมมียาเสพติดไว้เพื่อทำกำไรหรือเพื่อการค้า ก็จะถูกจำแนกให้เป็น ‘ผู้เสพ’ ไม่ใช่ ‘ผู้ค้า’ และถูกนำไปบังคับบำบัด​ ไม่เอาไปขังในเรือนจำ เพื่อบรรเทาปัญหานักโทษล้นคุก และงบประมาณแผ่นดินในการดูแล

2) หาก มีหลักฐาน ที่บ่งชี้ว่ามียาเสพติดไว้เพื่อทำกำไรหรือขาย แม้มียาเสพติดเพียงเม็ดเดียว ก็จะถูกดำเนินคดีในฐานะ ‘ผู้ค้า’ ถูกส่งต่อไปดำเนินคดีที่เรือนจำ ไม่ได้รับการส่งไปศูนย์บำบัดเช่นกรณีแรก

ทั้งนี้ การปรับแก้กฎกระทรวงเป็นไปเพื่อยืนยันหลักการ ‘เปลี่ยนผู้เสพ เป็นผู้ป่วย’ ไม่ใช่การย่อหย่อนกฎหมายดังเช่นที่กังวล

“ผมมีความมุ่งมั่นที่จะคืนลูกหลานสู่อ้อมกอดของชุมชน ขณะเดียวกัน ก็เร่งบำบัดช่วยเหลือโรคสมองติดยาของผู้เสพให้ดีขึ้น ลดปัญหาการกลับไปเสพใหม่ไม่กลับไปเสพซ้ำ ให้เป็นพลเมืองดี เพื่อสังคมที่เป็นสุขและประเทศชาติปลอดภัยจากยาเสพติด ย้ำ ผู้ค้าเม็ดเดียวก็ติดคุก” นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

ส่วนกรณีที่มีคนวิจารณ์ว่า การเปลี่ยนกฎกระทรวงครั้งนี้จะเป็นการเปิดช่องให้ยัดเงินเพื่อให้เปลี่ยนผู้ขายเป็นผู้เสพนั้น ขอชี้แจงว่า ในขั้นตอนกระบวนการยุติธรรมไม่ง่ายเช่นนั้น เพราะการตัดสินอยู่ที่อัยการและศาล บนการพิจารณาหลักฐานทุกองค์ประกอบ


Theme images by fpm. Powered by Blogger.