สรรพากรออกประกาศให้เจ้าของแพลตฟอร์มนำส่งข้อมูลรายได้พ่อค้า-แม่ค้าออนไลน์
นางสาวกุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมสรรพากร ลงนามในประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได้ เรื่อง กำหนดให้อิเล็กทรอนิกส์แพลตฟอร์มมีบัญชีพิเศษ
สาระสำคัญของประกาศฉบับนี้ คือกำหนดให้แพลตฟอร์มออนไลน์นำส่งข้อมูลรายได้พ่อค้า-แม่ค้าออนไลน์เข้าระบบ เริ่มรอบบัญชี วันที่ 1 มกราคม 2567 โดยต้องนำส่งไปให้กรมสรรพากร ภายใน 150 วันนับแต่วันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชี
สำหรับรายละเอียดของประกาศมีดังต่อไปนี้
ประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได้เรื่อง กำหนดให้อิเล็กทรอนิกส์แพลตฟอร์มมีบัญชีพิเศษ
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๗ (๑) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ๒๕) พ.ศ. ๒๕๒๕ ประกอบกับข้อ ๖ และ ข้อ ๗ ของกฎกระทรวง ฉบับที่ ๓๘๔ (พ.ศ. ๒๕๖๕) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการดำเนินการเกี่ยวกับเอกสารหลักฐานหรือหนังสือด้วยกระบวนการทางอิเล็กทรอนิกส์อธิบดีกรมสรรพากรโดยอนุมัติรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กำหนดให้ผู้ประกอบการอิเล็กทรอนิกส์แพลตฟอร์มมีบัญชีพิเศษ โดยให้จัดทำและนำส่งข้อมูลบัญชีพิเศษผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของกรมสรรพากร ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ในประกาศนี้
“อิเล็กทรอนิกส์แพลตฟอร์ม” หมายความว่า ผู้ให้บริการผ่านสื่อกลางทางอิเล็กทรอนิกส์ที่มีการบริหารจัดการข้อมูลเพื่อให้เกิดการเชื่อมต่อกันโดยใช้เครือข่ายคอมพิวเตอร์ระหว่างผู้ประกอบการกับผู้บริโภค เพื่อให้เกิดธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ แต่ไม่รวมถึงกิจการของอิเล็กทรอนิกส์แพลตฟอร์มที่มีกฎหมายกำหนดให้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย หรือสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
“ผู้ประกอบการ” หมายความว่า บุคคลซึ่งเสนอสินค้าหรือบริการต่อผู้บริโภคผ่านอิเล็กทรอนิกส์แพลตฟอร์ม
“ผู้ให้บริการจัดทำและนำส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์” หมายความว่า บุคคลซึ่งได้รับมอบหมายจากอิเล็กทรอนิกส์แพลตฟอร์ม ให้จัดทำและนำส่งข้อมูลบัญชีพิเศษผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของกรมสรรพากร
“บัญชีพิเศษ” หมายความว่า บัญชีที่แสดงข้อมูลรายรับของอิเล็กทรอนิกส์แพลตฟอร์มที่ได้รับจากผู้ประกอบการ
ข้อ ๒ ให้อิเล็กทรอนิกส์แพลตฟอร์มซึ่งจดทะเบียนจัดตั้งขึ้นในประเทศไทย และมีรายได้จากกิจการหรือเนื่องจากกิจการที่กระทำในรอบระยะเวลาบัญชีเกินหนึ่งพันล้านบาท มีบัญชีพิเศษอิเล็กทรอนิกส์แพลตฟอร์มที่มีรอบระยะเวลาบัญชีเกินหนึ่งพันล้านบาทตามวรรคหนึ่งแล้วและต่อมามีรายได้ในรอบระยะเวลาบัญชีหนึ่งรอบระยะเวลาบัญชีใดไม่เกินหนึ่งพันล้าน ให้ยังคงมี
หน้าที่จัดทำบัญชีพิเศษ
ข้อ ๓ ให้อิเล็กทรอนิกส์แพลตฟอร์มจัดทำข้อมูลบัญชีพิเศษขึ้นเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์และสร้างลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Signature) ตามมาตรฐานที่กรมสรรพากรประกาศไว้บนเว็บไซต์กรมสรรพากร แนบหรือรวมไปกับข้อมูลดังกล่าว เพื่อส่งให้แก่กรมสรรพากรโดยใช้ใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Certificate) ในการสร้างลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์(Electronic Certificate) นั้น ต้องยังไม่หมดอายุในขณะสร้างลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Signature)
ข้อ ๔ ให้อิเล็กทรอนิกส์แพลตฟอร์มยื่นคำขออนุญาตเชื่อมต่อระบบอิเล็กทรอนิกส์ของตนกับระบบอิเล็กทรอนิกส์ของกรมสรรพากร เพื่อนำส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ต่อกรมสรรพากร โดยอิเล็กทรอนิกส์แพลตฟอร์มนั้นต้องมีระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่มีลักษณะตามข้อ ๖ (๑) ของกฎกระทรวง ฉบับที่ ๓๘๔ (พ.ศ. ๒๕๖๕)ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการดำเนินการเกี่ยวกับเอกสารหลักฐานหรือหนังสือด้วยกระบวนการทางอิเล็กทรอนิกส์ และมีความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศตามที่อธิบดีประกาศกำหนด
ระบบอิเล็กทรอนิกส์ของอิเล็กทรอนิกส์แพลตฟอร์มที่ได้เชื่อมต่อกับระบบอิเล็กทรอนิกส์ของกรมสรรพากร ต้องมีลักษณะตามวรรคหนึ่งเสมอให้อธิบดีมีอำนาจไม่อนุญาตหรือยกเลิกการอนุญาตการเชื่อมต่อกับระบบอิเล็กทรอนิกส์ของกรมสรรพากร
ข้อ ๕ อิเล็กทรอนิกส์แพลตฟอร์มจะมอบหมายให้ผู้ให้บริการจัดทำและนำส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์จัดทำและนำส่งข้อมูลบัญชีพิเศษแทนก็ได้โดยอิเล็กทรอนิกส์แพลตฟอร์ม ต้องแจ้งผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของกรมสรรพากร
ให้ผู้ให้บริการจัดทำและนำส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้รับมอบหมายตามวรรคหนึ่งยื่นคำขออนุญาตเชื่อมระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่ออธิบดี โดยผู้นั้นต้องมีระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่มีลักษณะตามข้อ ๗ (๑)ของกฎกระทรวง ฉบับที่ ๓๘๔ (พ.ศ. ๒๕๖๕) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการดำเนินการเกี่ยวกับเอกสารหลักฐานหรือหนังสือด้วยกระบวนการทางอิเล็กทรอนิกส์ และมีความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศตามที่สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ประกาศกำหนดระบบอิเล็กทรอนิกส์ของผู้ให้บริการจัดทำและนำส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้เชื่อมต่อกับระบบอิเล็กทรอนิกส์ของกรมสรรพากรต้องมีลักษณะตามวรรคสองเสมอให้อธิบดีประกาศรายชื่อผู้ให้บริการจัดทำและนำส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งได้รับอนุญาตตามวรรคสองให้อธิบดีมีอำนาจไม่อนุญาตหรือยกเลิกการอนุญาตการเชื่อมต่อกับระบบอิเล็กทรอนิกส์ของกรมสรรพากรและลบชื่อออกจากประกาศตามวรรคสี่
ข้อ ๖ ผู้ให้บริการจัดทำและนำส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ตามข้อ ๕ รายใดมีระบบอิเล็กทรอนิกส์ไม่เป็นไปตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ฉบับที่ ๓๘๔ (พ.ศ. ๒๕๖๕) ว่าด้วยการดำเนินการเกี่ยวกับเอกสารหลักฐานหรือหนังสือด้วยกระบวนการทางอิเล็กทรอนิกส์ และไม่ดำเนินการแก้ไขปรับปรุงให้แล้วเสร็จภายในกำหนดเวลาที่กรมสรรพากรมีหนังสือแจ้งหรือที่ได้รับแจ้งผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์กรมสรรพากรอาจยกเลิกการอนุญาตให้เชื่อมต่อระบบ และลบรายชื่อออกจากบัญชีผู้ให้บริการจัดทำและ
นำส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ตามที่ได้ประกาศไว้
ข้อ ๗ ให้อิเล็กทรอนิกส์แพลตฟอร์มตามข้อ ๒ หรือผู้ให้บริการจัดทำและนำส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ตามข้อ ๕ นำส่งข้อมูลนั้นบนระบบอิเล็กทรอนิกส์ของกรมสรรพากรภายในหนึ่งร้อยห้าสิบวันนับแต่วันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชี เว้นแต่อธิบดีจะกำหนดเป็นอย่างอื่นข้อ ๘ กรณีอิเล็กทรอนิกส์แพลตฟอร์ม หรือผู้ให้บริการจัดทำและนำส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ได้นำส่งข้อมูลบัญชีพิเศษตามข้อ ๗ แล้ว แต่มีความประสงค์จะขอแก้ไข ยกเลิก หรือเพิ่มเติมข้อมูลดังกล่าวนั้น ให้อิเล็กทรอนิกส์แพลตฟอร์ม หรือผู้ให้บริการจัดทำและนำส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าวแจ้งและส่งข้อมูลบัญชีพิเศษเกินกำหนดเวลาผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของกรมสรรพากร
ข้อ ๙ ประกาศนี้ให้มีผลใช้บังคับสำหรับการส่งข้อมูลสำหรับรอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มในหรือหลังวันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๗ เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ ๒๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๖
กุลยา ตันติเตมิท
อธิบดีกรมสรรพากร
----------------------
ที่มา กรมสรรพพากร : https://www.rd.go.th/fileadmin/user_upload/kormor/newlaw/dgpf271266A.pdf
ภาพประกอบ : https://www.fpo.go.th/main/News/Public-Relations/13773.aspx