ประชาชนได้อะไร? จากการตั้งฉายารัฐบาล
มีทั้งฉายารวมของรัฐบาลและฉายารัฐมนตรีรายบุคคล
เท่าที่เคยได้สัมผัสเมื่อนานมาแล้ว การตั้งฉายาจะให้สื่อมวลชนแต่ละคนไปคิดมานำเสนอแล้วมาล้อมวงถกก่อนหาข้อสรุปร่วมกันและประกาศออกมาให้สาธารณชนได้รับทราบ
เริ่มต้นจากผู้สื่อข่าวสายทำเนียบรัฐบาลเมื่อปี 2523 ในสมัยรัฐบาล พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ จากนั้นก็ถือปฏิบัติต่อๆกันมาจนเป็นประเพณีแล้วลามไปที่รัฐสภา ลามไปถึงผู้สื่อข่าวสายอื่นๆทั้สายตำรวจ สายบันเทิง สายกีฬา ฯลฯ
แต่ดูแล้วการตั้งฉายายังไม่มีสื่อสายไหนเฉียบคม ลึกซึ้ง มีความหมายเท่าสื่อสายทำเนียบรัฐบาล รองลงมาก็คงเป็นสื่อสายรัฐสภา
อย่างไรก็ตามการตั้งฉายาของสื่อสายการเมืองมีบางปีที่เว้นวรรคไป เช่น ช่วงที่ใกล้มีการเลือกตั้ง หรือช่วงที่สถานการณ์บ้านเมืองไม่ปรกติอย่างกรณีมีรัฐประหาร หรือมีรัฐบาลที่มาจากคณะรัฐประหาร
หลายคนอาจมีคำถามว่าประชาชนได้อะไรจากการเสพข่าวการตั้งฉายารัฐบาล ตั้งฉายารัฐมนตรี
หลายคนอาจมองว่าเป็นเรื่องไร้สาระ
หลายคนอาจมองว่าเป็นเรื่องสนุกปากนักข่าว ทำเพื่อขายข่าว
ตั้งฉายากันเองแล้วก็ไปขยายผลถามนายกรัฐมนตรี ถามรัฐมนตรี ถามนักการเมืองว่าคิดเห็นอย่างไร?
ถ้ายอมรับไม่ตอบโต้ เป็นกระแสแค่วันเดียวก็จบกันไป
แต่หากไม่ยอมรับตอบโต้ แสดงอาการฉุนเฉียวไม่พอใจ ก็จะถูกขยายคความไปสู่ประเด็นอื่นๆ อีกระยะหนึ่ง
ย้อนกลับมาตรงคำถามที่ว่า ประชาชนได้ประโยชน์อะไร? จากการตั้งฉายารัฐบาล ประชาชนได้ประโยชน์อะไร? จากการตั้งฉายารัฐมนตรี ประชาชนได้ประโยชน์อะไร? จากการตั้งฉายานักการเมือง
คำตอบต้องแยกออกเป็นสองส่วน
ส่วนแรกคือการตั้งฉายาเป็นกระจกสะท้อนการทำงานของรัฐบาลในช่วงเวลา 1 ปีที่ผ่านมาว่าการทำงานเป็นอย่างไร
ส่วนที่สองคือสะท้อนภาพความจริงทางการเมืองทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลังที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล เบื้องหน้าเบื้องหลังที่เกี่ยวข้องกับรัฐมนตรี ซึ่งเบื้องหน้า เบื้องหลังนั้นอาจจะเคยเป็นข่าวมาบ้างแต่ถูกปฏิเสธ ไม่ยอมรับจากนักการเมือง หรืออาจเป็นเบื้องหน้าเบื้องหลังที่ไม่เคยเป็นข่าวมาก่อนเลย
มองเฉพาะส่วนแรกก็จะได้คำตอบอย่างหนึ่ง
มองส่วนที่สองแล้วคิดวิเคราะห์ตามก็จะได้คำตอบอีกอย่างหนึ่ง ที่บางครั้งเป็นคำตอบที่ช่วยบ่งบอกถึงสถานการณ์การเมือง สถานการณ์บ้านเมืองในอนาคตได้ว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น
ถ้าพิจารณาถึงฉายารัฐบาลปัจจุบันจากสื่อสายทำเนียบที่ว่า 'แกงส้ม "ผลัก" รวม' สะท้อนภาพที่มาของรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน ได้อย่างชัดเจนว่าผ่านอะไรมาบ้างกว่าจะมีวันนี้
ถ้าพิจารณาถึงฉายาส่วนตัวไม่ว่าจะเป็น "เซลล์แมนสแตนด์ ชิน" ของนายเศรษฐา ทวีสิน ไม่ว่าจะเป็น "ทวี สอดไส้" ของพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ก็สะท้อนภาพการเมืองนอกสภา สะท้อนภาพอำนาจนอกทำเนียบ ที่ทำให้คิดตามได้ว่าสิ่งที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน และสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตเป็นอย่างไร
การตั้งฉายารัฐบาล ตั้งฉายารัฐมนตรี จึงไม่ใช่แค่เรื่องสนุกที่ทำกันขำๆเป็นสีสันช่วงปลายปี
แต่เป็นกระจกสะท้อนภาพการเมืองปัจจุบัน และเป็นยังกระจกวิเศษฉายภาพการเมืองในอนาคตให้ได้เห็นกันอีกด้วย
------------------------------------
จับกระแสการเมือง : เขียนโดย / สมศักดิ์ ไม้พรต