"ภัยเหงา"กำลังคุกคามคนทั่วโลก
การตั้งคณะกรรมาธิการครั้งนี้สืบเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโควิด 19 ในช่วงที่ผ่านมาทำให้กิจกรรมทางสังคมต่างๆถูกจำกัด ส่งผลให้ระดับความเหงาของคนมีมากขึ้น โดยคณะกรรมาธิการจะทำหน้าที่ศึกษาปัญหานาน 3 ปี
ชิโด เอ็มเปมบา ทูตด้านเยาวชนของสหภาพแอฟริกา กล่าวว่า การแยกตัวจากสังคมไม่แบ่งอายุหรือพรมแดน ความเหงาไม่มีพรมแดน และกำลังเป็นความกังวลด้านสาธารณสุขที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ สวัสดิภาพ และพัฒนาการในทุกด้านของมนุษย์
นพ.วิเวก มูรธี ศัลยแพทย์ใหญ่ สหรัฐอเมริกา บอกว่าความเหงามีระดับความอัตรายเทียบเท่ากับการสูบบุหรี่วันละ 15 มวน และยังเกี่ยวพันกับโรคอ้วนเพราะว่าขาดกิจกรรมทางกาย ความเหงาไม่ได้เป็นเพียงปัญหาที่เกิดขึ้นในชาติที่พัฒนาแล้วอย่างที่เข้าใจกัน แต่เกิดขึ้นได้ในทุกภูมิภาค ซึ่งมีข้อมูลว่ามีผู้ใหญ่ 1 ใน 4 ในทุกภูมิภาคที่ปลีกตัวเองออกจากสังคม ซึ่งจะส่งผลให้เกิดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคสมองเสื่อมเพิ่มขึ้น 50% และเสี่ยงเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจเพิ่มขึ้น 30% ไม่เพียงแต่ในวัยผู้ใหญ่ แต่ในวัยหนุ่มสาวก็ประสบปัญหาความเหงาเช่นเดียวกัน โดยมีผลวิจัยในปี 2022 พบว่า วัยรุ่น 5-15% มีภาวะเหง ซึ่งตัวเลขที่แท้จริงอาจสูงกว่านี้ โดยวัยรุ่นในแอฟริก12.7% มีปัญหาเรื่องความเหงา ขณะที่วัยรุ่นในยุโรปมีปัญหานี้ 5.3%
"คนวัยหนุ่มสาวที่มีปัญหาเรื่องความเหงามีแนวโน้มจะไม่เรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย และความเหงายังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานด้วย"



