เจาะกลยุทธ์ UP Media บุกเบิกโฆษณาในลิฟต์ หวังโกยรายได้ 500 ล้าน
Up Media Thailand บริษัทให้เช่าสื่อโฆษณาในลิฟต์น้องใหม่มาแรงให้บริการสื่อโฆษณาในลิฟต์ทั้งในรูปแบบวีดีโอภาพเสียงคมชัดและโปสเตอร์ยึดทำเลเด่นมีคนสัญจรจำนวนมากทั้งศูนย์การค้า อาคารสำนักงาน อาคารที่พักอาศัยยิงตรงกลุ่มเป้าหมายตอบโจทย์ทุกกลุ่มธุรกิจ การค้า ในราคาไม่แพงเร่งขยายพื้นที่โฆษณาออกสู่หัวเมืองใหญ่ต่างจังหวัดควบคู่ขยายพื้นที่ในกรุงเทพฯให้ครอบคลุมมากขึ้นตั้งเป้ารายได้ปีนี้ไว้ที่ 500 ล้านบาท
การทำธุรกิจหากจะให้ประสบความสำเร็จธุรกิจนั้นต้องเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายโดยเฉพาะในกลุ่มเป้าหมายของสินค้าหรือบริการนั้น เมื่อพูดถึงการทำให้สินค้าหรือบริการเป็นที่รู้จักทุกคนก็จะนึกถึงการทำโฆษณาผ่านสื่อต่างๆซึ่งก็มีให้เลือกเป็นจำนวนมากแต่ก็ใช่ว่าทำโฆษณาแล้วสินค้าหรือบริการจะเป็นที่รู้จัก ขายดีหรือมีคนเข้ามาใช้บริการจนธุรกิจเติบโตสร้างผลกำไรให้บริษัทหรือองค์กรตามที่คาดหวังไว้เสมอไปถ้าการทำโฆษณานั้นไม่ได้สื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายอย่างตรงเป้า
การทำโฆษณาให้ตรงกลุ่มเป้าหมายจึงเป็นสิ่งที่เจ้าของแบรนด์สินค้าหรือบริการมองหาและถ้าเจ้าของแบรนด์สินค้าหรือบริการต้องการพื้นที่โฆษณาเล็กๆ แต่ให้ผลตอบรับที่ดีราคาไม่แพง การโฆษณาในลิฟต์คือคำตอบซึ่งปัจจุบันมีผู้ให้บริการโฆษณาในลิฟต์ครบวงจรทั้งการออกแบบ ผลิตสื่อและติดตั้งเผยแพร่ อย่าง บริษัท อัพ มีเดีย (ไทยแลนด์) จำกัด ภายใต้การนำของ MR.JoeyZhou ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ผู้คร่ำหวอดในวงการสตาร์ทอัพผ่านประสบการณ์ทำงานกับสตาร์ทอัพชั้นนำมาแล้วหลายแห่งใน 4 ประเทศทั่วโลก กล่าวว่า “อัพ มีเดีย (ไทยแลนด์)” เป็นบริษัทให้เช่าสื่อโฆษณาในลิฟต์น้องใหม่ที่เพิ่งก่อตั้งเมื่อปีที่แล้ว (2565) แต่กำลังไต่ระดับเติบโตทางธุรกิจอย่างน่าสนใจ MR.Joey Zhou บอกเล่าที่มาของการทำธุรกิจสื่อโฆษณาในลิฟต์ในประเทศไทยว่าจุดเริ่มมาจากการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย
“เดิมทีทำธุรกิจอยู่ที่เวียดนามเป็นธุรกิจเกี่ยวกับการสร้างแบรนด์ซึ่งเวียดนามกับไทยอยู่ไม่ห่างกันมาก เลยใช้เวลาว่างเข้ามาท่องเที่ยว มาชมเมืองและก็มามองหาโอกาสในการทำธุรกิจไปด้วยในตัวเมื่อมาถึงเมืองไทยเห็นว่าธุรกิจโฆษณาที่ไทยพัฒนาไปไกลมาก เป็นธุรกิจที่รุ่งเรืองมีอนาคตเลยมีแนวคิดอยากมาทำธุรกิจนี้โดยเจาะกลุ่มเอสเอ็มอีเพราะว่าเอสเอ็มอีต้องการสร้างแบรนด์โดยใช้งบประมาณไม่มาก ซึ่งยังไม่มีใครทำเป็นไอเดียที่คิดตอนนั้น แล้วก็ตัดสินใจเข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทย”
เมื่อได้ไอเดียว่าจะทำสื่อโฆษณาโดยเจาะกลุ่มเป้าหมายที่เป็นเอสเอ็มอีก็คิดต่อว่าจะใช้พื้นที่สื่อแบบไหนจึงเหมาะสมกับธุรกิจและจากประสบการณ์ส่วนตัวที่พักอาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียมและออฟฟิตอยู่ในอาคารสำนักงานที่มีคนจำนวนมากก็สังเกตเห็นว่าคนเราใช้ลิฟต์โดยสารขึ้นลงอาคารกันตลอดเวลาและช่วงเวลาระหว่างรอลิฟต์สายตาก็มองไปเรื่อยๆ ไม่ได้โฟกัสกับอะไรทำให้คิดได้ว่าน่าจะทำพื้นที่ว่างๆ ในลิฟต์ หน้าลิฟต์ เป็นพื้นที่โฆษณาเพื่อให้คนได้รับข้อมูลข่าวสารระหว่างรอ
อย่างไรก็ตามการจะทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จไม่ใช่คิดแล้วทำเลยต้องหาข้อมูลก่อนว่าสิ่งที่คิดไว้นั้นตรงกับความต้องการของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายหรือไม่ดังนั้นก่อนลงมือทำ MR.Joey Zhou จึงหาข้อมูลโดยใช้วิธีการไปพูดคุยกับเจ้าของสินค้าและบริการต่างๆที่เป็นธุรกิจขนาดกลางขนาดย่อม หรือ เอสเอ็มอี ซึ่งทำให้ทราบว่าเจ้าของธุรกิจเหล่านี้มีความสนใจจึงเป็นจุดเริ่มต้นของ “อัพ มีเดีย ไทยแลนด์”
MR.Joey Zhou กล่าวถึงปัจจัยที่ทำให้สื่อโฆษณาในลิฟต์ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าทั้งที่เพิ่งเริ่มได้เพียงไม่นานว่าน่าจะมาจากความแปลกใหม่คนเลยให้ความสนใจกันมากทำให้ลูกค้าที่มาให้เราทำโฆษณาก็รู้สึกพึงพอใจกับผลที่ได้รับจากการทำโฆษณายกตัวอย่างเช่นแอปสั่งอาหารหนึ่งหลังจากที่มาให้เราทำโฆษณาให้ก็มียอดดาวน์โหลดแอปเพิ่มขึ้นอย่างมากจนเจ้าของแบรนด์พึงพอใจและกำลังปรึกษากันว่าจะต่อยอดการทำโฆษณาอย่างไรต่อไป ส่วนกลุ่มลูกค้าอื่นๆที่มาใช้บริการของ “อัพ มีเดีย ไทยแลนด์”
ในช่วงที่ผ่านมามีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มร้านอาหาร เครื่องสำอางอสังหาริมทรัพย์ อุปกรณ์ไอที ฯลฯ
“ปัจจุบันเรามีโฆษณาในลิฟต์ทั้งที่เป็นวีดีโอผ่านจอแอลซีดีความคมชัดระดับฟลูเอชดีและโปรเตอร์ ติดอยู่ในลิฟต์ หรือหน้าลิฟต์ ตามอาคารสำนักงานใหญ่ๆ
และศูนย์การค้าที่มีคนเข้าไปใช้บริการจำนวนมากในแต่ละวันอยู่ประมาณ 300 แห่งมีสัญญาลงสื่อโฆษณาในลิฟต์กับบริษัทห้างร้าน อาคาร ต่างๆอยู่ 160-170 บริษัท ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดในปีนี้จะขยายพันธมิตรให้มากขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่จะมาทำโฆษณากับเราและขยายกลุ่มเป้าหมายให้กว้างขึ้น” MR.Joey Zhou กล่าวและว่า ปัจจุบันนอกจากอาคารต่างๆ ในกรุงเทพฯแล้วตามหัวเมืองใหญ่ๆ บริษัทก็ไปทำสื่อโฆษณาและมีพันธมิตรอยู่จำนวนมาก เช่น ภูเก็ต ปทุมธานี สมุทรปราการ นครปฐม พระนครศรีอยุธยา ชลบุรี ระยอง นครราชสีมา ขอนแก่น เป็นต้น โดยจะเน้นพื้นที่ที่มีคนเข้าไปใช้บริการจำนวนมากอย่างอาคารสำนักงานอาคารที่พักอาศัย ศูนย์การค้าเป็นหลัก
เมื่อถามว่าหากลูกค้าต้องการลงโฆษณาในอาคารที่ไม่ได้เป็นพันธมิตรกับ “อัพ มีเดีย” สามารถทำให้ได้หรือไม่ MR.Joey Zhou กล่าวว่า บริษัทสามารถทำให้ได้ในทุกพื้นที่เพื่อให้สื่อโฆษณาเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ลูกค้าต้องการไม่ว่าลูกค้าต้องการสื่อสารกับใคร กลุ่มไหน สถานที่ใดภายใต้งบประมาณเท่าไหร่ติดต่อเข้ามาได้ บริษัทสามารถทำได้ให้ทั้งหมด สำหรับธุรกิจใหม่หรือว่าธุรกิจเก่าที่ออกสินค้าหรือบริการใหม่การโฆษณาในลิฟต์ถือว่าตอบโจทย์เพราะตรงกลุ่มเป้าหมายกว่าโฆษณาผ่านสื่ออื่น เช่น
บิลบอร์ดขนาดใหญ่ที่ติดตามข้างถนน ทางด่วนเพราะสื่อโฆษณาในลิฟต์สามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการให้เห็นโฆษณาได้และนอกมองเห็นโฆษณาแน่นอนแล้วยังรับรู้สิ่งที่ธุรกิจห้างร้านต้องการสื่อสารกับลูกค้าเพราะระหว่างรอลิฟต์เขาจะอ่านข้อความหรือดูวีดีโอที่ฉายอยู่ ต่อให้สายตาไม่ได้มองแต่หูก็ยังได้ยินเสียงเพราะวีดีโอที่ฉายมีทั้งภาพและเสียง ต่างจากบิลบอร์ด แม้จะมีขนาดใหญ่แต่ว่ามีแต่ภาพไม่มีเสียงหรือข้อความในโฆษณาน้อยคนที่จะหยุดอ่านส่วนมากจะเดินผ่าน หรือขับรถผ่านไปและที่สำคัญยังไม่สามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการให้เห็นโฆษณาแน่นชัดได้เหมือนสื่อโฆษณาในลิฟต์ที่สามารถสร้างการรับรู้สร้างความจดจำในสินค้าและบริการได้ดีกว่า
เมื่อลูกค้ารับรู้และจดจำแบรนด์ได้ผลที่จะตามมาคือการซื้อสินค้าหรือบริการที่ลงโฆษณานั่นเอง
ด้านเป้าหมายทางธุรกิจของ“อัพ มีเดีย ไทยแลนด์” MR.Joey Zhou ระบุว่า ในปีที่แล้วเป็นปีที่เริ่มวางรากฐานบริษัท หาพันธมิตรทางธุรกิจติดตั้งอุปกรณ์ตามสถานที่ต่างๆในปีนี้เริ่มขายพื้นที่โฆษณาพร้อมกับขยายพันธมิตรให้มากขึ้นและทำการสื่อสารให้คนรู้จักธุรกิจของ “อัพ มีเดีย ไทยแลนด์”ให้มากขึ้นผ่านช่องทางการสื่อสารต่างๆทั้งออนไลน์ออฟไลน์ส่วนรายได้ในปีนี้นั้นตั้งเป้าเอาไว้ที่ 500 ล้านบาท
ในช่วงท้ายของการสนทนา MR.Joey Zhou ได้ฝากถึงเจ้าของธุรกิจห้างร้านต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มเอสเอ็มอี ว่าการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักและจดจำของกลุ่มเป้าหมายเป็นหัวใจหลักที่จะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จและจะทำให้วางแผนทำการตลาดได้ง่ายขึ้น การทำการตลาดจึงมีความสำคัญ ซึ่ง “อัพ มีเดีย ไทยแลนด์” มีความพร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความสำเร็จในธุรกิจของคุณด้วยสื่อโฆษณาที่น่าตื่นเต้นดึงดูดความสนใจของผู้คนได้มากและมีอัตราการมองเห็นโฆษณาสูงสร้างการรับรู้และจดจำในสินค้าและบริการได้ดีเหมาะสมกับทุกธุรกิจ การค้า ที่สำคัญมีราคาย่อมเยาว์ไม่แพงเนื่องจากเราเป็นสตาร์ทอัพเหมือนกันเรียกได้ว่าเราเป็นสื่อโฆษณาที่ใช้งบน้อยที่สุด แต่ให้ผลลัพธ์ที่ดีมากที่สุดซึ่งเป็นไปตามสโลแกนของบริษัทที่ว่า Brand up Business up นั่นเอง
สำหรับเจ้าของธุรกิจห้างร้านที่สนใจใช้บริการสื่อโฆษณาในลิฟต์ของ“อัพ มีเดีย ไทยแลนด์” สามารถติดต่อได้ตามช่องทางต่างดังนี้ สำนักงาน UpMedia Thailand ถนน พระราม 9, ห้วยขวาง, กรุงเทพมหานคร 10310 โทรศัพท์หมายเลข 065-063-1692 เฟสบุ๊ค UpMediaTH อินสตาแกรม UpMediaTH ไลน์ @UpMediaTH อีเมล์: Info@upmedia.co.th เว็ปไซต์ https://www.upmedia.co.th