จับตาเซอร์ไพร้ส์ ‘ปรับ ครม.’
คอลัมน์จับกระแสการเมือง..โดย นายนิรนาม..เว็บไซต์โลกธุรกิจ..เผยแพร่ 21 เมษายน 2568
เสียงสะท้อนจากประชาชนที่สะท้อนผ่านผลสำรวจของ “นิด้าโพล” ล่าสุด ได้กลายเป็นสัญญาณเตือนที่สำคัญต่อรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ถึงความคาดหวังในการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่อาจต้องเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้เพื่อฟื้นศรัทธา และตอบโจทย์ความต้องการของสังคม
จากผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศกว่า 1,300 ตัวอย่าง พบว่าร้อยละ 48.24 เห็นว่า “ควรมีการปรับ ครม. โดยเร็วที่สุด” ซึ่งเป็นสัดส่วนที่สูงเกือบครึ่งหนึ่งของผู้ตอบแบบสอบถาม บ่งชี้ถึงความไม่พอใจในผลงานของบางกระทรวงภายใต้รัฐบาลปัจจุบัน แม้จะเพิ่งเริ่มดำรงตำแหน่งมาไม่นาน
จับตากระทรวงพาณิชย์ - ความคาดหวังสูงแต่ผลงานต่ำ
กระทรวงพาณิชย์ถูกประชาชนเรียกร้องให้มีการปรับเปลี่ยนมากที่สุด โดยมีถึง ร้อยละ 57.02 ที่เห็นว่าควรเปลี่ยนตัวรัฐมนตรี ซึ่งน่าสนใจว่าประเด็นนี้อาจเกี่ยวข้องกับภาวะค่าครองชีพที่ยังสูง ราคาสินค้าไม่สอดคล้องกับรายได้ และความกังวลเรื่องเศรษฐกิจในชีวิตประจำวัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ประชาชน “รู้สึกได้ทันที” ในชีวิตจริง
แม้รัฐบาลจะพยายามนำเสนอภาพลักษณ์ด้านเศรษฐกิจผ่านนโยบายต่าง ๆ เช่น Digital Wallet หรือการดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ แต่หากความรู้สึกของประชาชนยังไม่เปลี่ยน การสื่อสารเพียงอย่างเดียวอาจไม่พอ
ความไม่พอใจใน “กระทรวงเศรษฐกิจ” - สัญญาณที่ไม่ควรมองข้าม
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (48.55%) กระทรวงการคลัง (46.49%) และแม้แต่สำนักนายกรัฐมนตรีเอง (44.43%) ก็ได้รับการประเมินว่าควรมีการเปลี่ยนแปลง สะท้อนถึงความไม่พอใจต่อทีมงานเศรษฐกิจและกลไกบริหารจัดการภาพรวม
ในขณะที่กระทรวงที่เกี่ยวข้องกับ "ความมั่นคง" อย่างกลาโหม มหาดไทย หรือแรงงาน แม้จะมีสัดส่วนความเห็นว่าควรเปลี่ยนน้อยกว่า แต่ก็ยังอยู่ในระดับ 40% ขึ้นไป ซึ่งถือว่า “ไม่ต่ำ” เลยทีเดียว
ภาพรวมของเสียงข้างมาก: ต้องการ “เปลี่ยน” มากกว่ารอ
เมื่อรวมผลจากทุกกระทรวง มีเพียงกระทรวงพาณิชย์เท่านั้นที่ประชาชนส่วนใหญ่ “มากกว่า 50%” เห็นว่าควรเปลี่ยนทันที แต่ในภาพรวม มีมากถึง 8 กระทรวงที่ประชาชนเกิน 40% ต้องการเห็นการปรับเปลี่ยน ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าจับตามอง
ยิ่งไปกว่านั้น ประชาชนถึง เกือบ 90% ให้ความเห็นว่ารัฐบาลควรพิจารณาปรับ ครม. ไม่ว่าจะในทันที (48.24%) หรือภายในช่วง 3-6 เดือนถัดไป แสดงให้เห็นว่าแรงกดดันในการเปลี่ยนแปลงไม่ได้อยู่แค่เสียงส่วนน้อย
บทสรุป: "การเมืองไม่ใช่เรื่องของเวลา แต่เป็นเรื่องของจังหวะ"
รัฐบาลภายใต้การนำของนายกฯ แพทองธาร อยู่ในสถานการณ์ที่เรียกว่า “ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของศรัทธา” เสียงของประชาชนไม่ใช่เพียงตัวเลขในแบบสอบถาม แต่สะท้อนถึงความรู้สึกจริงจากคนทุกภาคส่วน ตั้งแต่แรงงาน เกษตรกร ไปจนถึงภาคธุรกิจ
หากรัฐบาลยังคงรักษาแนวนโยบายเดิมโดยไม่ตอบรับต่อกระแสเรียกร้อง ก็อาจเผชิญแรงเสียดทานที่เพิ่มขึ้น ทั้งจากสังคม และแม้แต่ในฝ่ายนิติบัญญัติเอง การปรับ ครม. จึงไม่ใช่แค่เรื่องของตำแหน่ง แต่คือการแสดง “ความกล้าในการปรับตัว” และ “ความรับผิดชอบทางการเมือง” เพื่อรักษาความมั่นคงในระยะยาว
อย่างไรก็ตามการปรับ ครม. ครั้งนี้เข้าข่ายที่จะเกิดเซอร์ไพร้ส์ทางการเมือง เพราะที่คิดว่าถูกเด้งแน่ ขาเก้าอี้อาจแข็งแรงกว่าที่คิด
ต่างจากคนที่ถูกมองว่าเป็นสายตรงนายใหญ่ นายหญิง ที่ขาเก้าอี้ควรจะแข็งแรงกว่าคนอื่นๆ กลับต้องกระเด็นตกเก้าอี้ก่อนเวลาอันควร แม้บางคนเพิ่งจะเข้ามารับตำแหน่งในรัฐบาลนี้ก็ตาม