Header Ads

"จุลพันธ์"ผลักดันเศรษฐกิจเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังเข้าร่วมการประชุม Asian Financial Forum (AFF) ครั้งที่ 17 ผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมบนพื้นฐานของการเข้าถึงต้นทุนทางการเงินที่ยั่งยืนและเป็นธรรมแก่ทุกภาคส่วน

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง แถลงว่า นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้เข้าร่วมการประชุม Asian Financial Forum (AFF) ครั้งที่ 17 (การประชุมฯ) ระหว่างวันที่ 23 - 25 มกราคม 2567 ณ ศูนย์การประชุมและนิทรรศการ เขตบริหารพิเศษฮ่องกง จัดโดยรัฐบาลเขตบริหารพิเศษฮ่องกงและสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง (Hong Kong Trade Development Council: HKTDC) ซึ่งในปีนี้จัดขึ้นภายใต้หัวข้อหลัก “Accelerating Transformation: Impact, Inclusion, Innovation” โดยมีผู้บริหารระดับสูงจากภาครัฐและภาคเอกชนจากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก เข้าร่วมการประชุมฯ กว่า 2,500 คน

ในการนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้เข้าร่วมกล่าวปาฐกถาในหัวข้อ “Charting the Path to a Shared Tomorrow” โดยกล่าวถึงแนวทางการปฏิรูปเศรษฐกิจของไทยที่ใช้เครื่องมือทางการเงินที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ได้แก่ การผลักดันการพัฒนาตลาดทุนสำหรับการเงินสีเขียว รวมทั้งการพัฒนา Green, Social, Sustainability, Sustainability-linked (GSS+) ภายในประเทศ เพื่อส่งเสริมให้มีเงินทุนเพิ่มมากขึ้นในตลาดทุนสำหรับการเงินสีเขียว และการจัดมาตรฐานการจัดกลุ่มกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย (Thailand Taxonomy) ซึ่งทำหน้าที่เป็นเครื่องมือเพื่อจัดหมวดหมู่กิจกรรมทางเศรษฐกิจให้สอดคล้องกับเป้าหมายของข้อตกลงปารีส (Paris Agreement’s Goal) ในการจำกัดภาวะโลกร้อนให้ต่ำกว่า 1.5 องศาเซลเซียส ซึ่งสามารถส่งเสริมการเข้าถึงต้นทุนทางการเงินที่เหมาะสมและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 

นอกจากนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ยังได้กล่าวว่า AFF เป็นเวทีสำคัญที่ส่งเสริมให้ภาครัฐและภาคเอกชนสามารถพูดคุยและร่วมกันแก้ปัญหาที่ท้าทายและสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงไปสู่อนาคตที่ดีสำหรับคนรุ่นต่อไป อาทิ การหารือในประเด็นที่เป็นผลจากสถานการณ์อัตราดอกเบี้ยช่วงขาขึ้นที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนในการก่อภาระทางการเงินที่สูงขึ้น รวมถึงต้นทุนทางการเงินของผู้ประกอบการรายย่อยที่สูงขึ้นด้วย ในขณะที่ภาคธุรกิจการเงินกลับมีผลประกอบการที่ได้กำไรสูงขึ้น ซึ่งเป็นผลให้ต้นทุนทางการเงินดังกล่าวไม่เท่าเทียม และเพิ่มความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจในระบบมากยิ่งขึ้น ในการนี้ สถาบันการเงินควรให้ความสำคัญกับการกำหนดส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝาก (Bank Spread) ให้เหมาะสม และส่งเสริมการเข้าถึงต้นทุนทางการเงินที่ยั่งยืนและเป็นธรรมแก่ผู้มีส่วนได้เสียในทุกภาคส่วน

ในการเยือนเขตบริหารพิเศษฮ่องกงครั้งนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังได้ร่วมหารือทวิภาคีกับนายปีเตอร์ แลม (Mr. Peter K N Lam) ประธาน HKTDC เพื่อขับเคลื่อนความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับภาคเอกชนทั้งสองฝ่าย เพื่อสนับสนุนให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เป็นรูปธรรม และส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจเพื่ออนาคต เช่น การผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางในภูมิภาคอาเซียนในการพัฒนา Digital Platform หรือ Digital Content ที่เป็นห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า และอุตสาหกรรมภาพยนตร์ สื่อ และบันเทิง เป็นต้น นอกจากนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ยังมีโอกาสได้หารืออย่างไม่เป็นทางการกับผู้บริหารระดับสูงของประเทศต่าง ๆ ได้แก่ นาย Paul Chan รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เขตเศรษฐกิจพิเศษฮ่องกง  นาย Ali bin Ahmed Al-Kuwari รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐกาตาร์ ดร. Mohamed Maait รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สาธารณรัฐอาหรับอียิปต์  นาย Marko Primorac รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สาธารณรัฐโครเอเชีย  นาย Ibrahim Almubarak ผู้ช่วยรัฐมนตรีการลงทุน ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย และ  ดร. Muhammad Sulaiman Al Jasser ประธาน Islamic Development Bank ทั้งนี้ ผู้บริหารระดับสูงข้างต้นได้แสดงความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทย และยินดีให้การสนับสนุนการสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกันต่อไป

------------------------------

ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง


Theme images by fpm. Powered by Blogger.